ศึกษาพฤติกรรมและปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการสินเชื่อ SPayLater (สินเชื่อของแอพพลิเคชั่น Shopee) กับกลุ่ม GenY และ GenZ ในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

Abstract

การค้นคว้าอิสระนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำการศึกษาพฤติกรรมและปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการสินเชื่อ SPayLater (สินเชื่อของแอพพลิเคชั่น Shopee) กับกลุ่ม GenY และ GenZ ในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผู้วิจัยได้เลือกใช้ทฤษฎีการยอมรับเทคโนโลยีเป็นแนวทางในการทำวิจัยครั้งนี้

งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยประชากรกลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ที่เคยใช้บริการสินเชื่อ SpayLater ที่มีอายุตั้งแต่ 20-50 ปี เป็นกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการเก็บแบบสอบถามจำนวน  400 แบบสอบถาม โดยเลือกแจกแบบสอบถามแบบออนไลน์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล หลังจากนั้นได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา มาวิเคราะห์คุณลักษณะของผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถาม และเลือกใช้สถิติเชิงอนุมานมาร่วมใช้ในการวิเคราะห์ครั้งนี้ด้วย รวมถึงวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน (CFA) และการวิเคราะห์ทางสถิติสมการเชิงโครงสร้าง (SEM) เพื่อทำการศึกษาตัวแปร “การรับรู้ประโยชน์ในการใช้งาน”และตัวแปร “การรับรู้ความง่ายในการใช้งาน” ที่มีความสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อ ทัศนคติต่อพฤติกรรม และส่งผลให้เกิดการยอมรับการใช้สินเชื่อ SpayLater ซึ่งผลการวิจัยนี้สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางต่อยอดการพัฒนาสินเชื่อผลิตภัณฑ์ให้กับองค์กรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปได้

The purpose of this research is to examine the Behavior and factors affecting consumer’s decision for Spay Later loan(loan of Shopee application) a case of generation Y and generation Z in the Bangkok Metropolitan area. The research has chosen to use Technology Acceptance Model (TAM) as a guiding framework of this research.

This research is a quantitative research by the sample people who have used the Spay Later loan service with ages between from 20-50 years are the sample used to collect 400 questionnaires by chose to distribute online questionnaires as a tool for collecting data. And analyzed by descriptive statistics, inferential statistics include Confirmatory Factor Analysis (CFA) and Structural Equation Modeling (SEM). The findings reveal that the factors of “Perceived Ease of Use” that affects attitude toward and result “Behavior Intention”.

The result of this research can be used as a guideline for future developing product credit for related organizations.