วารสารวิทยาการจัดการและการสื่อสาร
https://so07.tci-thaijo.org/index.php/jmsc_journal
<p>วารสารวิทยาการจัดการและการสื่อสาร ดำเนินการเพื่อเผยแพร่บทความวิจัย (Research Article) และบทความวิชาการ (Academic Article) ที่มีคุณภาพ ซึ่งผ่านการพิจารณากลั่นกรองคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นสนับสนุนให้อาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย และผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาทางด้านสังคมศาสตร์ นำเสนอผลงานวิชาการในสาขาวิชาบริหารธุรกิจ การจัดการ การบัญชีและการเงิน การจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม เศรษฐศาสตร์ และนิเทศศาสตร์</p> <p>ISSN 2821-9821 (Print)</p> <p>ISSN 2821-9562 (Online)</p> <p> </p>
th-TH
<p><strong><br />ลิขสิทธิ์</strong></p> <p>ข้อคิดเห็นที่ปรากฏและแสดงในเนื้อหาบทความต่างๆ <br />ในวารสารวิทยาการจัดการและการสื่อสาร ถือเป็นความเห็น<br />และความรับผิดชอบโดยตรงของผู้เขียนบทความนั้นๆ มิใช่<br />เป็นความเห็นและความรับผิดชอบใด ๆ ของคณะวิทยาการจัดการ<br />มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ <br /><br />บทความ เนื้อหา และข้อมูล ฯลฯ ในวารสารวิทยาการจัดการและการสื่อสาร <br />ถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่<br />หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมด หรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก<br />คณะวิทยาการจัดการและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ก่อนเท่านั้น</p> <p> </p>
jmsc_cmru@cmru.ac.th (Dr. Anyamanee Pakdeemualchon)
jmsc_cmru@cmru.ac.th (Suphanit Chansong)
Tue, 25 Jun 2024 16:25:19 +0700
OJS 3.3.0.8
http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss
60
-
คุณลักษณะของผู้นำที่มีผลต่อประสิทธิผลขององค์กร
https://so07.tci-thaijo.org/index.php/jmsc_journal/article/view/3715
<p>ความสำเร็จหรือความล้มเหลวขององค์กรขึ้นอยู่กับผู้นำเป็นสำคัญ เพราะ ผู้นำ คือ บุคคลที่ถูกคัดเลือกและถูกแต่งตั้งขึ้นเพื่อให้ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จตามพันธกิจและเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยสภาพของการเปลี่ยนแปลงของโลกาภิวัตน์ ปัจจุบันองค์กรกำลังเผชิญความท้าทายในด้านความรู้ ความสามารถของผู้นำและการเติบโตขององค์กร โดยปัจจุบันเป็นยุคแห่งการสื่อสารไร้พรมแดนที่มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เชื่อมโยงบุคคล และกลุ่มคนที่หลากหลาย ให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เป็นเหตุให้ผู้นำต้องฝึกฝนพัฒนาคุณลักษณะของผู้นำและทักษะด้านต่าง ๆ ตามไปด้วย ดังนั้น ผู้นำจึงควรมีคุณลักษณะผู้นำที่สำคัญ ดังนี้ ด้านความฉลาดทางด้านอารมณ์และสติปัญญา ด้านบุคลิกภาพและความสามารถในการเข้าสังคม ด้านความมุ่งมั่นและริเริ่มสร้างสรรค์ ด้านการสื่อสารอย่างที่มีประสิทธิภาพ ด้านความซื่อสัตย์ยุติธรรม การพัฒนาองค์กรให้เจริญเติบโตจะพึ่งแต่ผู้นำมิได้ องค์กรต้องมีเทคนิคเครื่องมือการจัดการในการจัดการกระบวนการทำงานองค์กรให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ประกอบด้วย การบริหารงานตามวัตถุประสงค์ (Management by Objectives: MBO) เน้นการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์กร โดยที่เป้าหมายนั้นจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ต้องการให้มีคุณภาพสูงสุด และการบริหารจัดการคุณภาพโดยรวม (Total Quality Control: TQM) เน้นคุณภาพในทุกด้านขององค์กร โดยการสร้างความตระหนักให้กับคุณภาพเป็นรากฐานของการดำเนินธุรกิจ ซึ่งทั้งสองแนวคิดมุ่งเน้นเป้าหมายร่วมกันในการปรับปรุงและพัฒนาองค์กร ทั้งนี้เพื่อสร้างโอกาสการเจริญเติบโตการอยู่รอดขององค์กรในทุกสถานการณ์ และสามารถสร้างการแข่งขันในเวทีระดับโลก</p> <p> </p>
กฤตภรณ์ ทาโสด, กสิกร เกษไชย, รสสุคนธ์ กุณะแก้ว, อธิษฐ์ จวงพุ่ม
Copyright (c) 2024 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
https://so07.tci-thaijo.org/index.php/jmsc_journal/article/view/3715
Tue, 25 Jun 2024 00:00:00 +0700
-
ผลกระทบของการรับรู้ถึงการให้บริการ ความเข้าใจในการบริการ ความพึงพอใจในบริการ ที่มีต่อการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้าร้าน 7-Eleven ในกรุงเทพมหานคร
https://so07.tci-thaijo.org/index.php/jmsc_journal/article/view/3946
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับของการรับรู้ถึงการให้บริการของลูกค้า ความเข้าใจในการบริการ ความพึงพอใจในบริการ และการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้าร้าน 7-Eleven และเพื่อศึกษาผลกระทบของการรับรู้ถึงการให้บริการของลูกค้าที่ส่งผลกระทบต่อความเข้าใจในการบริการ ความพึงพอใจในบริการ และการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้าร้าน 7-Eleven ในกรุงเทพมหานคร โดยประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือ ลูกค้าร้าน 7-Eleven ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่นอนได้ จึงเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 420 คน ใช้วิธีการสุ่มตามความสะดวก โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงแบนมาตรฐาน และการทดสอบการถดถอยเชิงพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า ลูกค้าร้าน 7-Eleven ในกรุงเทพมหานครมีระดับการรับรู้ถึงการให้บริการของลูกค้าอยู่ในระดับมากในทุกด้าน ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ด้านการส่งเสริมการขาย ด้านบุคลิกภาพของพนักงาน ด้านบรรยากาศภายในร้าน ด้านราคาสินค้า และด้านการปฏิบัติงานของพนักงาน ตามลำดับ นอกจากนั้นระดับของความเข้าใจในการบริการ ความพึงพอใจในบริการ และการกลับมาซื้อซ้ำอยู่ในระดับมาก<br />ผลการทดสอบผลกระทบพบว่า การรับรู้ถึงการให้บริการลูกค้าในมิติด้านการการส่งเสริมการขาย ด้านบุคลิกภาพของพนักงาน และด้านบรรยากาศภายในร้านมีผลกระทบเชิงบวกต่อการเข้าใจในการบริการและความพึงพอใจในบริการ นอกจากนั้นความเข้าใจในบริการและความพึงพอใจในบริการมีผลกระทบเชิงบวกกับการกลับมาซื้อซ้ำ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01</p>
ณัฐนันท์ ฐิติยาปราโมทย์, ธิดาธิป รำรวย, ภีรดา คำวาส, ปิยะ วัตถพาณิชย์, สุขเกษม ลางคุลเสน, ณัฐวุฒิ ปัญญา, ประทาน แก้วกำพล
Copyright (c) 2024 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
https://so07.tci-thaijo.org/index.php/jmsc_journal/article/view/3946
Tue, 25 Jun 2024 00:00:00 +0700
-
อิทธิพลของพฤติกรรมการใช้ที่ส่งผลต่อแรงบันดาลใจในการเปิดแอปพลิเคชัน TikTok ของนักศึกษาในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
https://so07.tci-thaijo.org/index.php/jmsc_journal/article/view/4883
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาถึงพฤติกรรมการใช้แอปพลิเคชัน TikTok ของนักศึกษาในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 2) ศึกษาแรงบันดาลใจการใช้แอปพลิเคชัน TikTok ของนักศึกษามหาวิทยาลัยในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และ 3) ศึกษาอิทธิพลของพฤติกรรมการใช้ที่ส่งผลต่อแรงบันดาลใจในการเปิดแอปพลิเคชัน TikTok ของนักศึกษาในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) เก็บแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้วิจัยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage sampling) จำนวน 400 คน โดยใช้สถิติ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D. (Standard Deviation) และ Regression Analysis<br />ผลการวิจัยพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างนักศึกษาส่วนใหญ่มีพฤติกรรมเปิดรับเนื้อหาในแอปพลิเคชัน TikTok อันดับแรก ได้แก่ เพลง ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.44, S.D.=0.713) มีปฏิสัมพันธ์ในการเปิดรับแอปพลิเคชัน TikTok อันดับแรก ได้แก่ เพลง ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.85, S.D.=0.758) และมีเหตุผลในการเปิดรับแอปพลิเคชัน TikTok อันดับแรก ได้แก่ ความบันเทิง ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.61, S.D.=0.768) 2) ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานกลุ่มตัวอย่างมีแรงบันดาลใจในการใช้แอปพลิเคชัน TikTok มีค่าเฉลี่ยปานกลาง (x̄ = 3.41, S.D.=1.458) และ 4) ลักษณะเนื้อหาที่เปิดรับ เหตุผลในการเปิดรับ ส่งผลต่อแรงบันดาลใจในการเปิดแอปพลิเคชัน TikTok ร้อยละ 12.50</p>
ปองคุณ รุ่งสว่าง, ญาณกิตติ์ ไชยมงคล
Copyright (c) 2024 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
https://so07.tci-thaijo.org/index.php/jmsc_journal/article/view/4883
Tue, 25 Jun 2024 00:00:00 +0700
-
กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความผูกพันกับแฟนบอลและผู้สนับสนุนของ สโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
https://so07.tci-thaijo.org/index.php/jmsc_journal/article/view/4787
<p>การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความผูกพันกับแฟนบอลและผู้สนับสนุนของสโมสรฟุตบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ใช้วิธีการสัมภาษณ์เจาะลึกและการวิเคราะห์เอกสาร ผลการวิจัย พบว่า กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ประกอบไปด้วยนโยบาย รูปแบบกิจกรรม ช่องทางการประชาสัมพันธ์ และระยะเวลา 1. การประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความผูกพันกับแฟนบอล พบว่า (1) ด้านนโยบาย สโมสรสร้างความผูกพันกับแฟนบอลโดยกำหนดประเภทสมาชิกตั๋วปี เพื่อใช้เป็นเกณฑ์มอบสิทธิประโยชน์ (2) ด้านรูปแบบกิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันฟุตบอลและกิจกรรมสานสัมพันธ์กับแฟนบอลนอกฤดูการแข่งขัน (3) ด้านช่องทางการประชาสัมพันธ์ สโมสรสื่อสารกับแฟนบอลสม่ำเสมอผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ติ๊กต๊อก ยูทูบ ไลน์ เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน X (4) ด้านระยะเวลา สโมสรจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความผูกพันกับแฟนบอลทั้งในช่วงฤดูการแข่งขันและนอกฤดูการแข่งขัน 2. กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความผูกพันกับผู้สนับสนุน พบว่า (1) ด้านนโยบาย สโมสรมีนโยบายเป็นคนกลางเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้สนับสนุนกับแฟนบอล (2) รูปแบบกิจกรรรม ได้แก่ กิจกรรมเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม กิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ และกิจกรรมสปอนเซอร์ทัวร์ (3) ด้านช่องทางการประชาสัมพันธ์ สโมสรสื่อสารข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับผู้สนับสนุนผ่านสื่อบุคคล สื่อกิจกรรม เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม (4) ด้านระยะเวลา สโมสรกำหนดช่วงเวลาดำเนินกิจกรรมร่วมกับผู้สนับสนุนทั้งในฤดูการแข่งขันและนอกฤดูการแข่งขัน</p>
ณัฐวิภา สินสุวรรณ , นิพาภรณ์ จันทร์ประเสริฐ
Copyright (c) 2024 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
https://so07.tci-thaijo.org/index.php/jmsc_journal/article/view/4787
Tue, 25 Jun 2024 00:00:00 +0700
-
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จและความล้มเหลวของการดำเนินธุรกิจของนักศึกษาในสาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
https://so07.tci-thaijo.org/index.php/jmsc_journal/article/view/4997
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จและความล้มเหลวของการดำเนินธุรกิจของนักศึกษาในสาขาวิชาการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกต เพื่อศึกษาผลการดำเนินโครงงานธุรกิจของนักศึกษาแต่ละกลุ่ม ประชากรที่ทำการศึกษาใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างเฉพาะเจาะจงแบบมีวัตถุประสงค์ คือ กลุ่มนักศึกษาสาขาการเป็นผู้ประกอบการ ชั้นปีที่ 4 จำนวน 28 คน ที่ได้แบ่งกลุ่มดำเนินโครงงานธุรกิจจำนวน 19 กลุ่ม ผลการศึกษาพบว่า จากการดำเนินโครงงานธุรกิจจำลองทั้ง 19 ธุรกิจ พบธุรกิจที่สามารถพัฒนาสู่การประกอบการธุรกิจจริงได้จำนวน 2 ธุรกิจ และมีธุรกิจที่ไม่สามารถพัฒนาสู่การประกอบการจริงได้ จำนวน 17 ธุรกิจ<br />ประเด็นสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จจนสามารถก้าวสู่การประกอบการธุรกิจจริงได้ มาจากการวางแผนการบริหารจัดการภายในที่ดีจะสามารถลดความเสี่ยงและปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินธุรกิจได้อย่างมาก การตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม น่าสนใจ ในราคาสมเหตุสมผล มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ตรงกับความต้องการและอยู่ในความสนใจของลูกค้าเป้าหมายสามารถกระตุ้นยอดให้เกิดยอดขายสินค้าอย่างต่อเนื่อง การวางแผนประมาณการใช้งบประมาณตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นธุรกิจจะช่วยลดปัญหาขาดสภาพคล่องทางธุรกิจได้ และการวิเคราะห์ วางแผน เพื่อเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงอย่างรอบด้านก่อนเริ่มต้นธุรกิจจะทำให้ทราบถึงปัญหาและแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนประเด็นสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสู่การประกอบการธุรกิจ คือ ธุรกิจที่ล้มเหลวส่วนใหญ่ขาดการวางแผนการบริหารจัดการอย่างรอบด้านตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจจึงทำให้ธุรกิจต้องประสบกับปัญหาและความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายใด ๆ ในระหว่างการดำเนินธุรกิจเนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอต่อการจัดกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งเป็นผลจากขาดการวางแผนใช้งบประมาณตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ</p>
ภีมภณ มณีธร, ศิริจันทร์ เชื้อสุวรรณ, พัชรินทร์ อุดมจรัสเดช, วรมรรณ นามวงศ์, รัชนี เสาร์แก้ว, ภูริวัจฐ์ ชีคำ, ครองจิต วรรณวงศ์
Copyright (c) 2024 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
https://so07.tci-thaijo.org/index.php/jmsc_journal/article/view/4997
Tue, 25 Jun 2024 00:00:00 +0700