การพัฒนาแนวทางการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ กลุ่มโรงเรียนวังเจ้า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพ ปัญหาการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้กลุ่มโรงเรียนวังเจ้า 2) หาแนวทางการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้กลุ่มโรงเรียนวังเจ้า ประชากร ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 127 คน และแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน การเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ มีขั้นตอนการดำเนินการวิจัย รวม 2 ขั้นตอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า สภาพการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ พบว่า โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก ปัญหาการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ พบว่า ด้านความบกพร่องด้านการเขียนสะกดคำ มีปัญหามากที่สุด แนวทางการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ พบว่า ด้านความบกพร่องด้านการอ่าน คือ ครูควรฝึกเชื่อมเสียงตัวอักษรและประสมคำ โดยเริ่มจากจากการนำพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์มาประสมกันแล้วฝึกอ่านแบบแจกลูกสะกดคำ ด้านความบกพร่องด้านการเขียนสะกดคำ คือ ครูควรฝึกเขียนคำที่เด็กมักเขียนผิดบ่อย ๆ ซึ่งเราสามารถคัดกรองว่าเด็กคนไหนชอบเขียนคำไหนผิดบ่อย ๆ และด้านความบกพร่องด้านคณิตศาสตร์ คือ ครูควรทำการฝึกความจำ โดยการจัดให้นักเรียนนั่งใกล้ครู ซึ่งครูอาจคอยเตือนความทรงจำและตรวจแบบฝึกหัดบ่อย ๆ ทบทวนบทเรียนบ่อย ๆ จัดหาเครื่องช่วยความจำ เช่น ตารางแผนภูมิ ไดอะแกรม เครื่องคิดเลข ที่ช่วยให้นักเรียนจำได้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสุขภาพจิต. (2555). คู่มือครูระบบการดูแลนักเรียนกลุ่มเด็กพิเศษที่มีภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: บริษัท บียอนด์ พับลิสชิ่ง จำกัด.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560). กรุงเทพมหานคร: ผู้แต่ง.
จริยา ตรุษฎี. (2562). แนวทางการจัดการเรียนร่วมสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
จุฬามาศ จันทร์ศรีสุคต. (2561). การจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้. อุดรธานี: คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
เบญจมาพร ปัญญายง. (2549). คู่มือช่วยเหลือเด็กบกพร่องทางการเรียนรู้. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจํากัด.
พิรุณรัตน์ ขอนดอก. (2563). การพัฒนาความสามารถการอ่านสะกดคำภาษาไทยโดยใช้บทเรียนสื่อประสมร่วมกับแนวคิดพหุสัมผัส สำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านการอ่าน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. วารสารครุพิบูล, 7(2), 220-231.
รัชนู ฤทธิกุล. (2566). การประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพนักเรียนที่บกพร่องด้านการเรียนรู้ด้วยห้องเรียนพิเศษ โรงเรียนวัดอัมพาราม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2. วารสารพุทธสังคมวิทยาปริทรรศน์, 9(4), 17-31.
ศรียา นิยมธรรม. (2561). พัฒนาการทางภาษา. กรุงเทพมหานคร: แว่นแก้ว.
ศันสนีย์ ฉัตรคุปต์. (2561). ฝึกสมองให้คิดอย่างมีวิจารณญาณ. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1. (2567). รายงานผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2565 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษประถมศึกษาตาก เขต 1. เรียกใช้เมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก http://www.takesa1.go.th/website/?cat=19
สุนันทา วงษ์จำปา. (2562). การแก้ปัญหานักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ด้านการอ่านโดยใช้สื่อประสม ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิจัยและประเมินผลการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สุไปรมา ลีลามณี. (2561). ศึกษาความสามารถในการอ่านคําและแรงจูงใจในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีปัญหาการเรียนรู้ด้านการอ่านจากการสอนโดยผสมผสานวิธีโฟนิกส์ (Phonics) กับวิธีพหุสัมผัส (Multi - Sensory Approach). ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและการจัดการการศึกษา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สุมิตรา โรจนนิติ. (2565). การจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนสำหรับเด็กแอลดี (Learning Disabilities LD). วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 12(2), 260-275.