การมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารการบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี
คำสำคัญ:
การมีส่วนร่วม, การบริหาร, การบริการสาธารณะบทคัดย่อ
การศึกษาเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารการบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ประชาชนในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 4,333 คน กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้หลักการหาค่าสูตรของ ทาโร ยามาเน่ ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 367 คน ทำการรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการศึกษา และใช้สถิติวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ (percentage) ค่าเฉลี่ย (mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) และและทำการทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ F-test และวิเคราะห์ความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธี LSD Analysis (Least Significant Difference Analysis) ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ มีอายุตั้งแต่ 41-50 ปี จำนวน 116 คน คิดเป็นร้อยละ 33.24 มีระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี จำนวน 225 คน คิดเป็นร้อยละ 64.47 มีรายได้ 5,001 – 10,000 บาท จำนวน 135 คน คิดเป็นร้อยละ 38.68 มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน จำนวน 86 คน คิดเป็นร้อยละ 24.64 การมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารการบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี โดยรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการใช้ประโยชน์ รองลงมาคือ ด้านการติดตามประเมินผล ด้านการกำหนดนโยบาย และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านการปฏิบัติการศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่างของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารการบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนตำบลคูบางหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และ รายได้ มีผลต่อระดับความต้องการในการพัฒนาชุมชนอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
เอกสารอ้างอิง
จิราภรณ์ กนิษฐรัต. (2535). คุณภาพของการบริการ. วารสารกรมบัญชีกลาง. 36 (พฤษภาคม-มิถุนายน 2535).
จิตติมา พักเพียง. (2549). ความคิดเห็นของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ที่มีต่อการจัดระบบบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนจังหวัด.
(วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์).
ชูวงศ์ ฉายะบุตร. (2539). การปกครองท้องถิ่นไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: บริษัทพิฆเนศพริ้นติ้งเซนเตอร์ จำกัด.
นัททวัฒน์ บรมานันท์. (2543). หลักกฎหมายปกครองเกี่ยวกับบริการสาธารณะ.กรุงเทพมหานคร: วิญญชน.
นงลักษณ์ สุทธิวัฒนพันธุ์. (2539). พัฒนาบุคลิกภาพผู้นำและนักบริหาร. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพมหานคร: บริษัทแม็คเน็ท พริ้นติ้ง เซ็นเตอร์ จำกัด.
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. (2540). การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน. ภาควิชาศึกษาศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์, คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542. พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.
ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2542 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2546
สาวิตรี ทองยิ้ม. .(2550). การมีส่วนร่วมในการพัฒนาชมชนของคณะกรรมการหมู่บ้าน ตําบลหนอง ประดู่ อําเภอเลาขวัญ จังหวดกาญจนบุรี. (วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการปกครองท้องถิ่น, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา).
สถาบันพระปกเกล้า. (2549). รายงานผลการสำรวจ ความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับความพึงพอใจต่อการบริการสาธารณะและการทำงานของหน่วยงานต่างๆ พ.ศ. 2549. (พิมพ์ครั้ง ที่ 1). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แก่นจันทร์ จำกัด
อัญญรักษ์ เลิศกุศล. (2543). ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการที่มีต่อระบบการให้บริการของคณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์. (วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์).