คุณภาพการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา คุณภาพการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้สอนระดับมัธยมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 200 คน โดยกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างจากตารางของเครจซี่และมอร์แกน จากนั้นใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยวิธีการจับฉลาก ค่าดัชนีความสอดคล้องมีค่าอยู่ระหว่าง 0.80-1.00 ค่าความเชื่อมั่น .91 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสอบถาม ซึ่งมีการศึกษาและพัฒนามาจากเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้องและขอคำแนะนำอาจารย์ที่ปรึกษา ความถูกต้อง ก่อนนำไปใช้เก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ผลการศึกษา พบว่า 1. ผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 200 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 106 คน คิดเป็นร้อยละ 53.0 และเพศชาย จำนวน 94 คน คิดเป็นร้อยละ 47.0 ส่วนใหญ่มีอายุ 25 – 40 ปี จำนวน 99 คน คิดเป็นร้อยละ 49.5 รองลงมาอายุ 41 – 55 ปี จำนวน 69 คน คิดเป็นร้อยละ 34.5 และอายุต่ำกว่า 25 ปี จำนวน 32 คน คิดเป็นร้อยละ 16.0 ส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาปริญญาตรี จำนวน 124 คน คิดเป็นร้อยละ 62.0 รองลงมาระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี และสูงกว่าปริญญาตรี จำนวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 19.0 ส่วนใหญ่มีตำแหน่งหน้าที่ในปัจจุบันครูผู้สอน จำนวน 128 คน คิดเป็นร้อยละ 64.0 รองลงมาตำแหน่งหน้าที่ในปัจจุบันประธานกรรมการสถานศึกษา จำนวน 44 คน คิดเป็นร้อยละ 22.0 และ ตำแหน่งหน้าที่ในปัจจุบันผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 14.0 ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในตำแหน่ง 0 – 10 ปี จำนวน 90 คน คิดเป็นร้อยละ 45.0 รองลงมาประสบการณ์ในตำแหน่ง11 – 20 ปี จำนวน 69 คน คิดเป็นร้อยละ 34.5 ประสบการณ์ในตำแหน่ง21 – 30 ปี จำนวน 32 คน คิดเป็นร้อยละ 16.0 และประสบการณ์ในตำแหน่ง 31 ปีขึ้นไป จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 4.5 2. การบริหารงานวิชาการที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 17 โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน: โดยรวม พบว่า ด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ อยู่ในอันดับแรก รองลงมาด้านการวัดผล ประเมินผล เทียบโอนผลการเรียน และด้านการพัฒนาสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา ส่วนด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา อยู่ในอันดับสุดท้าย