การบูรณาการหลักพรหมวิหารธรรมเพื่อการปกครองของผู้บริหาร เทศบาลตำบลสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปการปกครองของผู้บริหารเทศบาลตำบลสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา 2) เพื่อเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นที่มีต่อการปกครองของผู้บริหารเทศบาลตำบลสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3) เพื่อนำเสนอแนวทางการบูรณาการหลักพรหมวิหารธรรมเพื่อการปกครองของผู้บริหารเทศบาลตำบลสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.95กลุ่มตัวอย่างคือบุคลากรซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในเทศบาลตำบลสุรนารี จังหวัดนครราชสีมาจำนวน 108 คน โดยสุ่มกลุ่มตัวอย่างจากประชากรทั้งหมด 147 คน จากการคำนวณโดยใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) ซึ่งใช้ระดับความคลาดเคลื่อน 0.05 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที (t-test) ค่าเอฟ (F-test) วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Analysis of Variance) เมื่อพบว่ามีความแตกต่าง จึงได้ทำการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference: LSD) และโดยระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth interview) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informant) จำนวน 9 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพทั่วไปการปกครองของผู้บริหารเทศบาลตำบลสุรนารี จังหวัดนครราชสีมาด้านการระดมความคิด ควรปลูกฉันทะให้บุคลากรเต็มใจทำงานในการระดมความคิดจากทุก ๆ มุมมองเพื่อหาทางเลือกในการตัดสินใจ ด้านการวางแผนควรให้ความสำคัญกับการวางแผนล่วงหน้าร่วมกันก่อนลงมือปฏิบัติเพื่อประสิทธิภาพและความคุ้มค่าด้านการลงมือทำควรวางระเบียบการจัดการในองค์กรให้รัดกุมและให้กำลังใจในการทำงานด้านการติดตามประเมินผลควรกำหนดหลักเกณฑ์รวมถึงกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนให้สอดคล้องกับเป้าหมายของหน่วยงาน 2. ผลเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นที่มีต่อการปกครองของผู้บริหารเทศบาลตำบลสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา พบว่า บุคลากรซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในเทศบาลตำบลสุรนารี จังหวัดนครราชสีมาที่มีระดับการศึกษารายได้ต่อเดือน และประสบการณ์ทำงานต่างกัน มีความคิดเห็นโดยภาพรวมไม่แตกต่างกันจึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศและอายุต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการปกครองของผู้บริหารเทศบาลตำบลสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา แตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้      3. แนวทางการบูรณาการหลักพรหมวิหารธรรมเพื่อการปกครองของผู้บริหารเทศบาลตำบลสุรนารี จังหวัดนครราชสีมาด้านเมตตา ผู้บริหารต้องสนับสนุนให้บุคลากรแสดงออกซึ่งความรักความปรารถนาดี ส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการด้านกรุณา ผู้บริหารส่งเสริมให้มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องอีกทั้งยังคอยให้กำลังใจดูแลช่วยเหลือเมื่อเกิดตกทุกข์ได้ยากขึ้นมา ด้านมุทิตา ผู้บริหารส่งเสริมให้บุคลากรได้เข้ารับการอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ด้านอุเบกขา ผู้บริหารมีความซื่อสัตย์ สุจริตต่อหน้าที่