พฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและแรงจูงใจของนักท่องเที่ยว วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช วิเคราะห์แรงจูงใจของนักท่องเที่ยว และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางประชากรศาสตร์และแรงจูงใจกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักท่องเที่ยวจำนวน 400 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ (Accidental Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัยและการวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าความถี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ การทดสอบไคสแควร์ (Chi-Square) ผลการศึกษาพบว่า พฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เดินทางมาท่องเที่ยวมากกว่าสองครั้ง โดยได้รับข้อมูลจากบุคคลใกล้ชิด เช่น ครอบครัวและเพื่อน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาในวันหยุด เดินทางร่วมกับคู่ครอง ครอบครัว หรือญาติ โดยใช้รถยนต์ส่วนตัว วัตถุประสงค์หลักของการเดินทาง คือ เพื่อทำบุญและกราบไหว้รูปแกะสลักไอ้ไข่หรือเช่าวัตถุมงคล นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีการขอพรด้านโชคลาภ สิ่งของที่ใช้ในการแก้บนคือประทัด มีค่าใช้จ่ายในการแก้บนส่วนใหญ่น้อยกว่า 500 บาท วัตถุมงคลที่นิยมคือเหรียญไอ้ไข่วัดเจดีย์ และมีค่าใช้จ่ายในการซื้อ/เช่าวัตถุมงคลอยู่ในช่วง 500-999 บาท นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มีแนวโน้มที่จะแนะนำสถานที่นี้ให้กับบุคคลอื่น การวิเคราะห์แรงจูงใจของนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยว พบว่าแรงจูงใจด้านวัฒนธรรมเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด รองลงมาคือ แรงจูงใจด้านกายภาพ แรงจูงใจด้านสถานภาพและเกียรติภูมิ และแรงจูงใจด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ตามลำดับ ส่วนผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ลักษณะทางประชากรศาสตร์และแรงจูงใจมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
กนกกาญจน์ กล่องเกลา และธีระศักดิ์ ทรัพย์ประเสริฐ. (2568). ทัศนคติและแนวทางพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในชุมชนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารศิลปะการจัดการ, 8(1), 226-248.
กัลยา วานิชย์บัญชา. (2567). สถิติสำหรับงานวิจัย. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
จินตนา จันเรือน และคณะ. (2565). แรงจูงใจในการมาเยือนวัดสำคัญในจังหวัดลำปางและองค์ประกอบของแหล่งท่องเที่ยววัดในจังหวัดลำปาง ของนักท่องเที่ยวชาวไทย. วารสารการบริหารและสังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 5(1), 123-132.
เจษฎา ความคุ้นเคย และชวลีย์ ณ ถลาง. (2565). แนวทางการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามอัตลักษณ์ของกลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล. วารสารบัณฑิตศึกษา, 16(3), 48-61.
ชัยวุฒิ ภาคสุทธิผล. (2550). พฤติกรรมการท่องเที่ยวและความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อบริการทัวร์เอื้องหลวงของบริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน). ใน สารนิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ธฤษวรรณ มาตกุล. (2556). แรงจูงใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยสู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีสาน กรณีศึกษาวัดศิลาอาสน์ (ภูพระ) จังหวัดชัยภูมิ. ใน สารนิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการการท่องเที่ยว. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
เนตรทิพย์ สิทธิเชนทร์. (2553). แนวทางการพัฒนาอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดเพื่อตอบสนองพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยในช่วงวันหยุด. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
Anantamongkolkul, C. & Pattanapokinsakul, K. (2022). Insights into cultural tourist behavior: A mixed-methods study. Humanities, Arts and Social Sciences Studies, 22(3), 523-535.
Cochran, W. G. (1997). Sampling techniques. (3rd ed.). New York: John Wiley & Sons.
Cooper, C. & Boniface, B. G. (1998). Geography of travel and tourism. United Kingdom: Butterworth Heinemann.
Cronbach, L. J. (1970). Essentials of psychological test. (5th ed.). New York: Harper Collins.
Kerlinger, F. (1972). The Study and Measurement of Values and Attitudes. Washington, D.C.: ERIC Clearinghouse.
Kotler, P. & Keller, K. (2016). Marketing Management. (15th ed.). United Kingdom: Pearson Education.
McIntosh, R. & Goeldler, C. (1995). The Nature of Attitudes and Attitude Change. United States: Addison-Wesley Publishers.
Swarbrooke, J. & Horner, S. (2007). Consumer Behavior in Tourism. (2nd ed.). Oxford: Butterworth Heinemann.