การให้คำปรึกษาเพื่อเยียวยาจิตใจของเหยื่อจากการถูกรังแก ในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาที่มีความหลากหลายทางเพศ

Main Article Content

เบญจรัตน์ เขตตะเคียน
กาญจนวัลย์ ปรีชาสุชาติ
ดวงฤดี พ่วงแสง
ชคดี บุญเกษม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสบการณ์การถูกรังแกของนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ และเพื่อศึกษาการให้คำปรึกษาแก่นักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศที่เป็นเหยื่อจากการถูกรังแกระดับชั้นมัธยมศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ ประเภทการศึกษาเฉพาะกรณี เครื่องมือที่ใช้คือแบบสัมภาษณ์เชิงลึก การสัมภาษณ์ไม่เป็นทางการ และการสังเกตแบบมีส่วนร่วม ผู้ให้ข้อมูลหลักจำนวน 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศที่กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษา จำนวน 3 คน และกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ ได้แก่ ครูที่ปรึกษา และเพื่อนสนิท จำนวน 7 คน วิเคราะห์ข้อมูลแบบพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1) ผู้ให้ข้อมูลมีประสบการณ์การถูกรังแก 4 รูปแบบ คือ การถูกรังแกทางร่างกาย การถูกรังแกทางวาจา การถูกรังแกทางสังคม และการถูกรังแกทางออนไลน์ 2) ผู้ให้ข้อมูลใช้การเผชิญหน้า การแสดงออกทางพฤติกรรม การพูดคุย เพื่อยุติการถูกรังแกส่งผลให้เหตุการณ์การถูกรังแกไม่ยุติลง แต่การเพิกเฉยส่งผลให้เหตุการณ์การถูกรังแกยุติลง 3) บุคคลที่อยู่ร่วมในเหตการณ์มีการให้ความช่วยเหลือผู้ถูกรังแกทำให้เหตุการณ์ยุติลง และ 4) ทฤษฎีการให้คำปรึกษารายบุคคลเพื่อเยียวยาจิตใจนักเรียนกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศที่เป็นเหยื่อจากการถูกรังแกสามารถช่วยเยียวยาจิตใจจากการถูกรังแกในนักเรียนกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ คือ ทฤษฎีการให้คำปรึกษาแบบพิจารณาเหตุผล อารมณ์ พฤติกรรม ทฤษฎีการให้คำปรึกษาแบบยึดบุคคลเป็นศูนย์กลาง ทฤษฎีการให้คำปรึกษาแบบเผชิญความจริง ทฤษฎีการให้คำปรึกษาเกสตัลท์ และทฤษฎีการให้คำปรึกษาแบบอัตถิภาวนิยม

Article Details

How to Cite
เขตตะเคียน เ. ., ปรีชาสุชาติ ก. ., พ่วงแสง ด. ., & บุญเกษม ช. . (2025). การให้คำปรึกษาเพื่อเยียวยาจิตใจของเหยื่อจากการถูกรังแก ในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาที่มีความหลากหลายทางเพศ. วารสารสังคมพัฒนศาสตร์, 8(5), 73–86. สืบค้น จาก https://so07.tci-thaijo.org/index.php/JSSD/article/view/7915
บท
บทความวิจัย

References

กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2567). “บูลลี่” ไม่ใช่เรื่อง เด็ก ๆ. เรียกใช้เมื่อ 13 พฤษภาคม 2568 จาก https://prgroup.hss.moph.go.th/medias/article/

โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประเทศไทย. (2562). รายงานประจำปี 2562 โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: ScandMedia Corporation Limited.

จริยา ทะรักษา และคณะ. (2564). การรังแกในเด็กและวัยรุ่น. วารสารกุมารเวชศาสตร์, 60(2), 110-117.

จำเนียร จวงตระกูล และคณะ. (2567). การวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยเชิงคุณภาพแบบการวิเคราะห์แก่นสาร: แนวทางปฏิบัติสำหรับนักวิจัยใหม่. วารสารสมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แห่งประเทศไทย, 6(2), 15-29.

ชุตินาถ ศักรินทร์กุล และอลิสา วัชรสินธุ. (2557). ความชุกของการข่มเหงรังแกและปัจจัยด้านจิตสังคมที่เกี่ยวข้องในเด็กมัธยมต้น เขตอำเถอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 59(3), 221-230.

ดำรงเกียรติ คำมา. (2561). ผลของการปรึกษากลุ่มตามแนวการพิจารณาเหตุผล อารมณ์ และพฤติกรรมต่อการกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมของนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ใน วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการปรึกษา. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

นววิช นวชีวินมัย. (2566). ทฤษฎีการบำบัดแบบเผชิญความจริงสู่การพัฒนาทักษะชีวิต. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี, 12(1), 3-14.

นันทะ บุตรน้อย และคณะ. (2567). การตรวจสอบสามเส้าในการวิจัยทางสังคมศาสตร์. วารสารมณีเชษฐาราม วัดจอมมณี, 7(6), 1184-1198.

บุญมี พันธุ์ไทย. (2565). การวิจัยเชิงคุณภาพ. วารสารปรัชญาดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์, 1(2), 1-10.

ประไพพิมพ์ สุธีวสินนนท์ และประสบชัย พสุนนท์. (2559). กลยุทธ์การเลือกตัวอย่างสำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ. วารสารปาริชาต มหาวิทยาลัยทักษิณ, 29(2), 31-48.

พนิดา บุตรจันทร์ และทัศนา ทวีคูณ. (2562). พฤติกรรมรังแกกันและรูปแบบการเผชิญปัญหาของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต, 33(3), 86-102.

พระอนันตชัย อภินนฺโท (ขันโพธิ์น้อย). (2561). การให้คำปรึกษาแบบไม่นำทาง. วารสารพุทธจิตวิทยา, 3(2), 1-13.

มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะ. (2557). การรังแกต่อกลุ่มนักเรียนที่เป็นหรือถูกมองว่าเป็นคนข้ามเพศหรือคนรักเพศเดียวกันในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา: รูปแบบ ความชุก ผลกระทบ แรงจูงใจและมาตรการการป้องกันใน 5 จังหวัดของประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยมหิดล.

วัชรี ทรัพย์มี. (2533). ทฤษฎีและกระบวนการให้บริการปรึกษา. กรุงเทพมหานคร: ทบวงมหาวิทยาลัย.

วิสมา ยูโซะ และคณะ. (2565). ผลการปรึกษากลุ่มตามแนวคิดอัตถิภาวนิยมต่อการตระหนักรู้ในตนเองและการตั้งเป้าหมายในการเรียน: กรณีศึกษานักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาจิตวิทยาคลินิก. วารสารจิตวิทยาคลินิกไทย, 53(3), 1-12.

ศุภวดี บุญญวงศ์. (2551). ทฤษฎีการให้คำปรึกษา. สงขลา: มหาวิทยาลัยทักษิณ.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสมาคมแนะแนวแห่งประเทศไทย. (2559). การให้คำปรึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2564). SDGs กับความหลากหลายทางเพศ (LGBTQI+). เรียกใช้เมื่อ 17 เมษายน 2568 จาก https://www.sdgport-th.org/2021/02/sdgs-lgbtqi/

__________. (2566). LGBTQ+: หลากหลายที่ไม่แตกต่าง เพื่อเปิดกว้างสู่ความเสมอภาคทางเพศ. เรียกใช้เมื่อ 17 เมษายน 2568 จาก https://www.nesdc.go.th/download/Social/Social_Report/2566_article_q2_003.pdf

สุมาลี ขำอินทร์ และพัชราภรณ์ ศรีสวัสดิ์. (2565). การให้คำปรึกษาแบบยึดบุคคลเป็นศูนย์กลางของครูแนะแนวในศตวรรษที่ 21. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์, 97(2), 138-142.

Corey, G. (2005). Theory and Practice of Counseline and Psychotherapy. USA: Thomson Brooks/Cole.

Fitri, H.U. et al. (2022). Individual Counseling Client-Centered Approach in Increasing the Resilience of Victims of Bullying. COUNS-EDU: The International Journal of Counseling and Education, 7(4), 176-180.

Kyvelou, A. et al. (2023). The Impact of a Mindfulness-Gestalt Based Counseling Group on Undergraduate College Students. Psychology, 14(8), 1268-1287.

Mccall, L. (2024). Qualitative Research: Characteristics, Design, Methods & Examples. Retrieved May 13, 2025, from https://www.simplypsychology.org/qualitative-research-characteristics-design-methods-examples.html

Ussolikhah, N. et al. (2025). REBT-Based Individual Counseling to Overcome Verbal Bullying Behavior. Jurnal Ilmu Sosial, Pendidikan Dan Humaniora, 4(1), 58-69.