รายงานการประเมินโครงการพัฒนานวัตกรมืออาชีพ โรงเรียนเทศบาล 4 (วัดคลองเรียน) โดยใช้รูปแบบ CIPPIEST Model
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการพัฒนานวัตกรมืออาชีพ โรงเรียนเทศบาล 4
(วัดคลองเรียน) โดยใช้รูปแบบการประเมิน CIPPIEST Model ซึ่งประกอบด้วย 8 ด้าน ได้แก่ บริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลผลิต ผลกระทบ ประสิทธิผล ความยั่งยืน และการถ่ายทอดส่งต่อ การวิจัยเป็นการวิจัยเชิงประเมิน (Evaluation Research) ประชากรและกลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ผู้บริหาร ครู นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครอง รวม 344 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามสำหรับนักเรียน ครู ผู้บริหาร และผู้ปกครอง แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างสำหรับผู้บริหาร ครู กรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครอง และแบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน เครื่องมือทุกฉบับผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) โดยผู้ทรงคุณวุฒิ และมีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ตั้งแต่ 0.80 ขึ้นไป และผ่านการทดสอบความเชื่อมั่น (Reliability) ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s Alpha Coefficient) ได้ค่าตั้งแต่ .85 ขึ้นไป การเก็บรวบรวมข้อมูลดำเนินการ โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ: ก่อนดำเนินโครงการ (ประเมินบริบทและปัจจัยนำเข้า) ระหว่างดำเนินโครงการ (ประเมินกระบวนการ ผลผลิต และผลกระทบ) และหลังสิ้นสุดโครงการ (ประเมินประสิทธิผล ความยั่งยืน และการถ่ายทอดส่งต่อ) ข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยเชิงปริมาณพบว่า การประเมินโครงการโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผลการประเมินเชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหา พบว่าทุกด้านของโครงการอยู่ในระดับมาก โครงการมีความสอดคล้องกับบริบท มีปัจจัยนำเข้าที่พร้อม กระบวนการดำเนินงานเป็นระบบ นักเรียนสร้างสรรค์นวัตกรรมและภาคภูมิใจในผลงาน ส่งผลเชิงบวกต่อผู้เรียน ผู้ปกครอง และชุมชน สามารถยกระดับคุณภาพการเรียนรู้และทักษะศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนได้อย่างเห็นผล มีแนวทางในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพในการขยายผลสู่โรงเรียนอื่น
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2566). แนวนโยบายการส่งเสริมนวัตกรรมการศึกษาในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. กรุงเทพมหานคร: กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2565). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม. กรุงเทพมหานคร: สำนักนโยบายและแผนการศึกษา.
บุญทัน ดอกไธสง. (2565). การจัดการนวัตกรรมทางการศึกษาในโรงเรียนท้องถิ่น. วารสารการบริหารและพัฒนาการศึกษา, 18(3), 22-35.
ใบหยก แซ่ตัน และคณะ. (2567). การพัฒนาความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของนักเรียนระดับประถมศึกษาโดยใช้การเรียนรู้แบบโครงงาน. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์, 39(1), 55-70.
พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2559). วิธีการวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพมหานคร: เฮ้าส์ ออฟ เคอร์มิสท์.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 - 2580. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. (พิมพ์ครั้งที่ 1). เรียกใช้เมื่อ 1 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.onec.go.th/index.php/book/BookView/1540
สำนักราชเลขาธิการ. (2563). พระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา. เรียกใช้เมื่อ 1 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.royaloffice.th/พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัส/
Best, J. W. (1977). Research in Education. (3rd ed.). Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
Fullan, M. (2016). The new meaning of educational change. (5th ed.). New York: Teachers College Press.
Hargreaves, A. & Fullan, M. (2012). Professional capital: Transforming teaching in every school. New York: Teachers College Press.
OECD. (2018). The Future of Education and Skills: Education 2030. Paris: Organization for Economic Co-operation and Development.
Posavac, E. J. (2020). Program evaluation: Methods and case studies. (8th ed.). Boston, MA: Pearson Education.
Rovinelli, R. J. & Hambleton, R. K. (1977). On the use of content specialists in the assessment of criterion-referenced test item validity. Journal of Educational Measurement, 14(2), 75-89.
Stufflebeam, D. L. & Shinkfield, A. J. (2007). Evaluation theory, models, and applications. San Francisco, CA: Jossey-Bass.
Trilling, B. & Fadel, C. (2009). 21st century skills: Learning for life in our times. San Francisco: Jossey-Bass.