การประเมินโครงการท่องโลกกว้างสำหรับนักเรียนห้องเรียนพิเศษ ส่งเสริมความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนท่าศาลาประสิทธิ์ศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษานครศรีธรรมราช
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการท่องโลกกว้างสำหรับนักเรียนห้องเรียนพิเศษส่งเสริมความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี โรงเรียนท่าศาลาประสิทธิ์ศึกษา โดยใช้รูปแบบการประเมินของ Stake 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านปัจจัยนำเข้า 2) ด้านกระบวนการปฏิบัติ และ 3) ด้านผลลัพธ์ กลุ่มตัวอย่างได้จากการเลือกแบบเจาะจง ประกอบด้วยผู้บริหาร 3 คน ครูผู้ดำเนินโครงการ 9 คน ผู้ปกครอง 29 คน และนักเรียน 29 คน รวม 70 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบประเมินโครงการและแบบสัมภาษณ์ ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 คน มีค่า IOC เท่ากับ 1.00 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยการแจกแจงความถี่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ข้อมูลเชิงคุณภาพวิเคราะห์ด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ผลการศึกษา พบว่า 1) ด้านปัจจัยนำเข้าพบว่า 1.1) การเตรียมความพร้อมของโครงการ 1.2) คุณลักษณะของครูผู้ดำเนินโครงการ 1.3) คุณลักษณะของนักเรียนที่ร่วมโครงการ 1.4) คุณลักษณะผู้ปกครองนักเรียนที่เข้าร่วม โครงการ และ 1.5) คุณลักษณะผู้บริหารที่สนับสนุนโครงการ มีผลการประเมินภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.83, S.D.= 0.41 ) ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน 2) ด้านกระบวนการปฏิบัติ พบว่า 2.1) การบริหารโครงการ 2.2) ความพร้อมของแหล่งเรียนรู้ และ 2.3) ความพร้อมของอาหารและที่พัก มีผลการประเมินรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.82, S.D. = 0.39) ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน 3) ด้านผลลัพธ์ พบว่า 3.1) การทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ ได้แก่ 3.1.1) ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ 3.1.2) พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ 3.1.3) สวนสนุกดรีมเวิลด์ 3.1.4) อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ (Space Inspirium) และ 3.1.5) สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา 3.2) พฤติกรรมของนักเรียน และ 3.3) ความพึงพอใจที่มีต่อโครงการ มีผลการประเมินภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.84, S.D. = 0.38) ผ่านเกณฑ์การประเมิน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ชนกนาถ วงศ์บูรณาวาทย์. (2549). กระบวนการเรียนรู้จากการท่องเที่ยวทัศนศึกษาของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ธรรมรัตน์ พงษ์ทอง. (2559). การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาปฐมวัยของโรงเรียน ในเขตอำเภอแก่งหางแมว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรีเขต 1. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยบูรพา.
ประภัสสร ผะแดนนอก. (2563). คุณลักษณะของผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21 ตามการรับรู้ของครูโรงเรียนในสหวิทยาเขตจตุรวิทย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์, 7(1), 199-214.
พูนภัทรา พูลผล. (2565). ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ควรเป็นอย่างไร. เรียกใช้เมื่อ 10 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.plearnpattana.ac.th/
รำไพ แสงนิกุล. (2559). การประเมินโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย : กรณีศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยและประเมินผลการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม.
วรรณวิภา วีระพงศ์. (2566). การบริหารโครงการ (Project Management) : เครื่องมือและกลยุทธ์ การบริหารโครงการ. เรียกใช้เมื่อ 10 พฤษภาคม 2568 จาก https://race.nstru.ac.th/home_ex/blog//search/word/
วัชราภรณ์ อมรศักดิ์. (2557). ปัจจัยเชิงเหตุและผลของพฤติกรรมใฝ่รู้ใฝ่เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารพฤติกรรมศาสตร์เพื่อการพัฒนา, 6(1), 203-218.
สมศักดิ์ ภู่วิภาดาวรรธน์. (2544). การยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและการประเมินตามสภาพจริง. เชียงใหม่: Knowledge Center.
Bruner, J. (1963). The process of education. New York: Alfred A Knopf, Inc. and Random House.
Butzow, J. & Qureshi, W. (1978). Science Teachers' Competencies: A Practical Approach. Science Education, 62(1) , 59-66.
Dewey, J. (2005). How we think: a restatement of the relation of reflective thinking and the educational process. New York: D. C Heath.
Freire, P. (1970). Pedagogy of the oppressed. New York: Seabury Press.
Stake, R. E. (1967). The Countenance of Educational Evaluation. United States: Department for Exceptional Children, Gifted Children Section.