การส่งบทความ

เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อส่งบทความ

รายการตรวจสอบก่อนส่งบทความ

ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดรายการตรวจสอบการส่งทุกข้อ ดังต่อไปนี้ และบทความอาจถูกส่งคืนให้กับผู้แต่งกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด
  • บทความนี้ยังไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น (หรือหากมีกรุณาอธิบายในข้อความส่งถึงบรรณาธิการ)
  • บทความเตรียมในรูปแบบของไฟล์ Microsoft Word
  • มีการให้ URLs สำหรับเอกสารที่อ้างอิงจากอินเทอร์เน็ต
  • ต้นฉบับบทความต้องมีความยาวไม่น้อยกว่า 10 หน้า และไม่เกิน 20 หน้ากระดาษ A5 (รวมเอกสารอ้างอิง) พิมพ์บนกระดาษหน้าเดียว ภาษาไทยใช้ตัวอักษรแบบ TH SarabunPSK ตั้งค่าหน้ากระดาษโดยเว้นขอบบน ขอบซ้าย ขอบขวา และขอบล่าง 1.5 เซนติเมตร กำหนดระยะห่างระหว่างบรรทัดเท่ากับ 1 และเว้นบรรทัดระหว่างแต่ละย่อหน้า การนำเสนอรูปภาพและตาราง ต้องนำเสนอรูปภาพและตารางที่มีความคมชัดพร้อมระบุหมายเลขกำกับรูปภาพไว้ด้านล่าง พิมพ์เป็นตัวหนา เช่นตาราง 1 หรือ Table 1 และ ภาพที่ 1 หรือ Figure 1 รูปภาพที่นำเสนอต้องมีรายละเอียดของข้อมูลครบถ้วนและเข้าใจได้โดยไม่จำเป็นต้องกลับไปอ่านที่เนื้อความอีก ระบุลำดับของรูปภาพทุกรูปให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่อยู่ในต้นฉบับ โดยคำอธิบายต้องกระชับและสอดคล้องกับรูปภาพที่นำเสนอ
  • บทความเตรียมตามข้อกำหนดของวารสารฯ ทั้งในแง่ของรูปแบบและการอ้างอิง ตามคำแนะนำสำหรับผู้แต่ง (Author Guidelines)

คำแนะนำผู้แต่ง

คำแนะนำสำหรับผู้แต่ง     
        บทความที่ส่งมาขอรับการตีพิมพ์จะต้องไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น ผู้เขียนบทความจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสนอบทความวิชาการหรือบทความวิจัยเพื่อตีพิมพ์ในวารสาร อย่างเคร่งครัด รวมทั้งระบบการอ้างอิงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของวารสาร
        ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสาร  ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสาร รวมทั้งผู้เขียนจะต้องคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัย ไม่ละเมิดหรือคัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ซึ่งทางวารสารได้กำหนดความซ้ำของผลงาน โปรแกรม CopyCatch เว็บ Thaijo ในระดับ ไม่เกิน 15% เป็นตันไป
        โดยผู้เขียนจะต้องตรวจสอบความสมบูรณ์ของบทความตามคำแนะนำสำหรับผู้เขียน หากไม่ปฏิบัติตามกติกา กองบรรณาธิการวารสารขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการตีพิมพ์ ดังต่อไปนี้
        1. บทความมีความซ้ำซ้อนมากกว่า 15%
        2. ผู้เขียนไม่ปฏิบัติตามรูปแบบของวารสาร
        3. บทความไม่ผ่านการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิ หรือ
        4. ไม่แก้ไขบทความตามข้อเสนอแนะตามระยะเวลาที่กำหนด (15 วันหลังจากได้รับข้อเสนอแนะ)
 
การส่งบทความเข้าระบบออนไลน์ของวารสาร เพื่อได้รับการตีพิมพ์
การส่งในระบบ (Online Submission) สามารถส่งเข้าระบบออนไลน์ได้เว็บไซต์ของวารสาร ได้ที่ https://so07.tci-thaijo.org/index.php/Lawllmjournal
 
การจัดเตรียมต้นฉบับ
         1) ต้นฉบับบทความต้องมีความยาวไม่น้อยกว่า 10 หน้า และไม่เกิน 20 หน้ากระดาษ  A5  (รวมเอกสารอ้างอิง) พิมพ์บนกระดาษหน้าเดียว ภาษาไทยใช้ตัวอักษรแบบ TH SarabunPSK ตั้งค่าหน้ากระดาษโดยเว้นขอบบน ขอบซ้าย ขอบขวา และขอบล่าง 1.5 เซนติเมตร กำหนดระยะห่างระหว่างบรรทัดเท่ากับ 1 และเว้นบรรทัดระหว่างแต่ละย่อหน้า การนำเสนอรูปภาพและตาราง ต้องนำเสนอรูปภาพและตารางที่มีความคมชัดพร้อมระบุหมายเลขกำกับรูปภาพไว้ด้านล่าง พิมพ์เป็นตัวหนา เช่นตาราง 1 หรือ Table 1 และ ภาพที่ 1 หรือ Figure 1 รูปภาพที่นำเสนอต้องมีรายละเอียดของข้อมูลครบถ้วนและเข้าใจได้โดยไม่จำเป็นต้องกลับไปอ่านที่เนื้อความอีก ระบุลำดับของรูปภาพทุกรูปให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่อยู่ในต้นฉบับ โดยคำอธิบายต้องกระชับและสอดคล้องกับรูปภาพที่นำเสนอ
          2) ชื่อเรื่องต้องมีภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พิมพ์ไว้หน้าแรกตรงกลาง
          3) ชื่อผู้เขียน ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ระบุชื่อต้นสังกัด หรือชื่อหน่วยงาน 
          4) มีบทคัดย่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไม่เกิน 300 คำ
          5) กำหนดคำสำคัญ (Keywords) ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (3 - 5 คำ)
          6) การเรียงหัวข้อ หัวข้อใหญ่สุด ให้พิมพ์ชิดขอบด้านซ้าย หัวข้อย่อยเว้นห่างจาก หัวข้อใหญ่ 3-5 ตัวอักษร พิมพ์ตัวที่ 6 และหัวข้อย่อยขนาดเดียวกัน ต้องพิมพ์ให้ตรงกัน เมื่อขึ้นหัวข้อใหญ่ ควรเว้นระยะพิมพ์ เพิ่มอีก 0.5 ช่วงบรรทัด
          7) การใช้ตัวเลขคำย่อ และวงเล็บ ควรใช้ตัวเลขอารบิกทั้งหมด ใช้คำย่อที่เป็น สากลเท่านั้น (ระบุคำเต็มไว้ในครั้งแรก) การวงเล็บภาษาอังกฤษ ควรใช้ดังนี้ (Student centred learning)
 
บทความวิจัย ให้เรียงลำดับดังนี้
          1) บทคัดย่อ (Abstract)
          2) คำสำคัญ (Keywords) กำหนด ไม่เกิน 3-5 คำ ตามชื่อของบทความ คั่นด้วยเครื่องหมาย Semicolon ; ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
          3) บทนำ (Introduction) ระบุความสำคัญของปัญหาการวิจัย กรอบแนวคิด และระบุวัตถุประสงค์การวิจัย
          4) วัตถุประสงค์ (Objective) 
          5) การทบทวนวรรณกรรม เขียนควรอธิบายถึงผลการสืบค้นเอกสาร บทความ การวิจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแสดงให้เห็นถึง “ช่องว่างของความรู้” (knowledge gap) ที่ยังไม่ถูกพิจารณา
          6) ระเบียบวิธีวิจัย (Research Methodology) ระบุแบบแผนการวิจัย การได้มาซึ่งกลุ่มตัวอย่างและการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล
          7) ผลการวิจัย (Results) เสนอผลที่พบตามวัตถุประสงค์การวิจัยตามลำดับอย่างชัดเจน ควรเสนอในรูปตารางหรือแผนภูมิ
          8) อภิปรายผล (Discussion) เสนอเป็นความเรียง ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของผลการวิจัยกับกรอบแนวคิด และงานวิจัยที่ผ่านมา ควรอภิปรายเป็นข้อ ๆ ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของตัวแปรที่ศึกษาทั้งหมด
          9) องค์ความรู้ใหม่ ระบุองค์ความรู้ที่ได้อันเป็นผลมาจากการวิจัย ผ่านการสังเคราะห์ ออกมาในรูปแบบของ แผนภูมิ แผนภาพ หรือ ผังมโนทัศน์ พร้อมทั้งการอธิบายที่รัดกุม เข้าใจได้ง่าย  
          10) สรุป (Conclusion) ระบุข้อสรุปที่สำคัญ
          11) ข้อเสนอแนะ (Suggestion) ให้นำเสนอ 2 ประเด็น คือ
          - ข้อเสนอแนะจากการวิจัย
          - ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป
          12) เอกสารอ้างอิง (References) ต้องเป็นรายการที่มีการอ้างอิงไว้ ทั้งในเนื้อเรื่องและเอกสารอ้างอิงท้ายบทความ
 
บทความวิชาการ ให้เรียงลำดับดังนี้
          1. บทคัดย่อ (Abstract)
          2. คำสำคัญ (Keywords)
          3. บทนำ (Introduction)
          4. วัตถุประสงค์ (Objective)
          5. เนื้อหา (Content)
          6. องค์ความรู้ใหม่ (New Knowledge)
          7. สรุป (Conclusion)
          8. ข้อเสนอแนะ (Suggestion)
          9. เอกสารอ้างอิง (References)
 
ระบบการอ้างอิง
          การอ้างอิงใช้ระบบ APA7 ไม่น้อยกว่า 15 เล่ม ซึ่งบทความในวารสารนิติศาสตร์ศรีปทุมปริทัศน์ ใช้การอ้างอิงภาษาอังกฤษทั้งเล่ม ฉะนั้นกรณีรายการอ้างอิงภาษาไทย ขอความร่วมมือแปลเป็นภาษาอังกฤษ
 
** หมายเหตุ
          การอ้างอิงในเนื้อหาบทความ
          สำหรับการอ้างอิงในเนื้อหาบทความจะใช้หลักการอ้างอิงแบบนาม-ปี (Author-date Style) โดยระบุ ชื่อ-สกุล ผู้แต่ง ปีที่พิมพ์ ตามด้วยข้อความที่ต้องการอ้างอิง เช่น (Chansongpol, 2020) และหากชื่อผู้แต่งเป็นส่วนหนึ่งของบทความก็ให้วงเล็บเฉพาะปีที่พิมพ์ เช่น Chansongpol (2020) เป็นต้น  
 
**ตัวอย่างอ้างอิง
          Arnold, E.C., & Boggs, K.U. (2015). Interpersonal relationships: Professional communication skills for nurses(7th ed.). Elsevier Health Sciences.
          Chareonsuk, K. (2010). Employee satisfaction, Krung Thai Bank Public Company Limited in Ratchaburi Province[Master’s Thesis, Muban Chombueng Rajabhat University]. 
          Kincaid, J.W. (2003). Customer relationship management: Getting it right!. Prentice-Hall. 
          Pengsawat, W. (2008). Research methods. Suwiriyasan.
          Phien-wej, N., Giao, P. H., & Nutalaya, P. (2006). Land subsidence in Bangkok, Thailand. Engineering Geology, 82(4), 187–201. https://doi.org/10.1016/j.enggeo.2005.10.004
          Secretariat Office of The Teachers’ Council of Thailand. (2019). Annual report 2019. Secretariat Office of The Teachers’ Council of Thailand.
          Thai PBS News. (2022, May 8). More foreign tourists to Thailand after the cancellation of Test & Go. Thai PBS News. https://news.thaipbs.or.th/content/315297 
          Thongdeeying, P. (2018). A study of factors affecting the effectiveness of direct sales network business in Thailand[Doctoral Dissertation, Siam University].

นโยบายส่วนบุคคล

ชื่อและอีเมลผู้แต่งที่กรอกในเว็บไซต์วารสารนี้จะใช้เฉพาะวัตถุประสงค์การตีพิมพ์ในวารสารนี้เท่านั้น และจะไม่เผยแพร่แก่บุคคลอื่นใดหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด