แนวทางการพัฒนากฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องสงสัย ในกระบวนการสอบสวนคดีอาญา
คำสำคัญ:
การคุ้มครองสิทธิผู้ต้องสงสัย, สิทธิผู้ต้องสงสัย, กระบวนการสอบสวนคดีอาญาบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนากฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องสงสัยในกระบวนการสอบสวนคดีอาญา โดยกระบวนการยุติธรรมทางอาญามีบทบาทสำคัญในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมและสร้างความเชื่อมั่นในหลักนิติรัฐ อย่างไรก็ตามปัญหาการละเมิดสิทธิของผู้ต้องสงสัยในกระบวนการสอบสวนคดีอาญายังคงเกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น การบังคับให้รับสารภาพ การควบคุมตัวเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และการปฏิเสธสิทธิในการเข้าถึงทนายความ ปัญหาเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่สมดุลระหว่างการบังคับใช้กฎหมายกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน บทความนี้มุ่งเน้นการศึกษาพัฒนากฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องสงสัยในกระบวนการสอบสวนคดีอาญา โดยศึกษากฎหมายในประเทศต่าง ๆ อาทิ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค.ศ. 1948(พ.ศ. 2491) กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ. 1966(พ.ศ. 2509) และแนวปฏิบัติจากประเทศที่มีระบบกฎหมายเข้มแข็ง เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐฝรั่งเศส และสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยรวบรวมข้อมูลจากหนังสือ บทความ วิทยานิพนธ์ รายงานการวิจัย และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ผลการวิจัยพบว่า แนวทางการพัฒนากฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องสงสัยในกระบวนการสอบสวนคดีอาญา ประกอบด้วย 4 แนวทาง ได้แก่ (1) การแจ้งสิทธิของผู้ต้องสงสัยตั้งแต่เริ่มกระบวนการสอบสวน (2) การบันทึกวิดีโอและเสียงในการสอบปากคำ (3) การรับรองสิทธิในการเข้าถึงทนายความ และ (4) การจัดตั้งกลไกตรวจสอบและถ่วงดุลเพื่อป้องกันการใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของไทยให้สอดคล้องกับหลักนิติรัฐและสิทธิมนุษยชน เพื่อสร้างความยุติธรรมและความโปร่งใสในกระบวนการสอบสวนคดีอาญา
เอกสารอ้างอิง
ธานี วงศ์ชูสุข. (2566). “การเปรียบเทียบการคุ้มครองสิทธิผู้ต้องสงสัยในกระบวนการสอบสวนของไทยกับต่างประเทศ”. วารสารนิติศาสตร์, 48(2).
พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565
พัฒนี พ่วงสมุทร์ และ รัฐชฏา ฤาแรง. (2567). มาตรการทางกฎหมายเพื่อการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในคดีอาญาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 12(5), 2068–2083. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/journal-peace/article/view/273704.
พิสิษฐ์ วรอาคม. (2563). กฎหมายว่าด้วยพนักงานสอบสวน. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: วิญญูชน.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
ศักดา ธนิตกุล. (2561). สิทธิมนุษยชนกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญา. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: วิญญูชน.
ศานติ ภักดีคำ. (2565). “สิทธิมนุษยชนกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญา”. วารสารนิติศาสตร์, 45(3).
สมชาย ปรีชาศิลปะกุล. (2564). “สิทธิของผู้ต้องสงสัยในกระบวนการสอบสวน”. วารสารกฎหมายและสิทธิมนุษยชน, 10(2).
สมชาย ปรีชาศิลปะกุล. (2565). “สิทธิของผู้ต้องหาในระบบยุติธรรมไทย”. วารสารนิติศาสตร์, 48(2).
Code de procédure pénale (France), Articles 79–230
EU Directive 2012/13/EU on the Right to Information in Criminal Proceedings
European Convention on Human Rights (ECHR), Articles 5–6
Ibid, Article 80-1
Ibid, Articles 137–145
Ibrahim and Others v. The United Kingdom, nos. 50541/08, etc., ECHR 2016
Jacqueline Hodgson. (2001). “The French Criminal Justice System: A Comparative Account”. Criminal Law, 2001(4).
Jacqueline Hodgson. (2004). “The Role of the Criminal Defence Lawyer in an Inquisitorial
Jalloh v. Germany, Application no. 54810/00, ECHR, 11 July 2006
Larry D. Laudan. (2006). Truth, Error, and Criminal Law: An Essay in Legal Epistemology. Cambridge University Press.
Miranda v. Arizona, 384 U.S. 436 (1966)
Mireille Delmas-Marty & John Spencer. (2002). European Criminal Procedures. Cambridge University Press.
Murray v. The United Kingdom, no. 18731/91, ECHR 1996
PACE Code C, Code E, Code G
Police and Criminal Evidence Act 1984 (PACE), United Kingdom
Procedure: Legal and Ethical Constraints”. Modern Law Review, 67(1).
Salduz v. Turkey, no. 36391/02, ECHR 2008
United Nations, Convention Against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment (CAT) (1984), Articles 2, 11
United Nations, International Covenant on Civil and Political Rights (1966), Articles 7, 9, 14(3),
United Nations, Universal Declaration of Human Rights (1948), Articles 5, 9–11
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารนิติศาสตร์ศรีปทุม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.