ศิลปะและการสร้างภูมิคุ้มกันทางความรักวิถีพุทธของวัยรุ่น ในยุค Disruption

ผู้แต่ง

  • ธนวิชญ์ กิจเดช วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

การสร้างภูมิคุ้มกัน, ความรักวิถีพุทธ, วัยรุ่น; Disruption

บทคัดย่อ

 ความรักเป็น องค์ประกอบด้านความใกล้ชิดเป็นแกนหลักที่สามารถพบได้ในความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ มีความคงทนค่อนข้างสูง และมีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์ระยะยาว ส่วนความเสน่หามักพบในความสัมพันธ์เชิงคู่รักเท่านั้น เด่นชัดในความทรงจำ และมีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์ระยะสั้น มีผลต่อปฏิกิริยาทางร่างกายและการรับรู้ความเจ็บปวด ขณะที่ความผูกมัดนั้นมีความผันแปรในแต่ละช่วงอายุ เช่น มีความผูกมัดกับครอบครัวในวัยเด็ก ผูกมัดกับเพื่อนในช่วงวัยรุ่น และผูกมัดกับคนรักในวัยผู้ใหญ่ มีผลต่อการรับรู้ความเจ็บปวดและความสามารถในการควบคุมตนเอง จำแนกความรักออกได้เป็นประเภทต่างๆ 8 ประเภท 1. การไม่มีความรัก (nonlove) 2. ความชอบ (liking) 3. รักแบบหลงใหล (infatuated love)      4. ความสัมพันธ์แบบปราศจากความรัก (empty love) 5. รักแบบโรแมนติก (romantic love  6. รักแบบมิตรภาพ (companionate love) 7. รักแบบไร้สติปัญญา (fatuous) 8. รักสมบูรณ์แบบ (consummate love)

เมื่อเรามองตามหลักคำสอนของศาสนาในเรื่องของ ความรัก ในทางพุทธศาสนาไม่ได้มีความหมายเพียงความรู้สึกผูกพันระหว่างบุคคลเท่านั้นแต่หมายรวมไปถึงความรู้สึกติดตาต้องใจในวัตถุและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ด้วย ซึ่งความรักเกิดจากอุปาทานประเภทที่เรียกว่า  กามปาทาน หรือความยึดมั่นโดยความเป็นกามหรือของรักใคร่ทั่วไป ตามปกติมนุษย์ มีความติดพันในสิ่งที่น่ารักใคร่พอใจ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์ รวมเรียกว่า กามารมณ์ 6 เป็นเหตุนำมาซึ่งความยุ่งยากวุ่นวายไม่จบสิ้น เพราะมนุษย์ต้องดิ้นรนขวนขวายเพื่อให้ได้มาซึ่งความสบายใจในทาง รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส กล่าวได้ว่าในทางโลกการติดกามจะเป็นประโยชน์เพราะจะทำให้รักครอบครัว ขยันขันแข็งในการแสวงหาทรัพย์และชื่อเสียง ฯลฯ แต่ในทางธรรมะจะรู้สึกว่าเป็นทางมาของความทุกข์อันเร้นลับ การติดกามเป็นสิ่งที่ต้องละกันให้หมดจึงจะดับทุกข์ได้ จึงเป็นศาสตร์และศิลปะและการสร้างภูมิคุ้มกันทางความรักวิถีพุทธของวัยรุ่น ในยุค Disruption

เอกสารอ้างอิง

ค่านิยมของวัยรุ่นเกี่ยวกับความรัก คู่ครอง กรณีศึกษา วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม, การประชุมวิชาการ

แห่งชาติ มหาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ครั้งที่ ๙, หน้า ๙๔๖.

จิตวิทยากับความรัก (Psychology of Love), เข้าถึงข้อมูลวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๓.

ทฤษฎีความรัก, อภินันท์ สิริรัตนจิตต์, คณะศิลปศาสตร์และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่, เข้าถึงข้อมูล

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ๒๕๖7.

เทวิกา ประดิษฐบาทุกา, เรื่องของความรัก ออนไลน์ www.gotoknow.com, สืบค้นข้อมูลวันที่ ๑๐ ตุลาคม

๒๕๖๓.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต), พจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลธรรม, หน้า ๑๒๔.

พอไซเนียส, ปรัชญาความรัก (Symposium Plato), เขียน : เพลโต (Plato), แปล : พินิจ รัตนกุล,

สำนักพิมพ์ : สามัญชน, หน้า 99.

ไพลิน ศรีสุขโข, การพัฒนาความรักและความผูกพันใกล้ชิดในชีวิตคู่, คู่มือการให้การปรึกษาทางเพศ,

กรุงเทพฯ : ฝ่ายเวชศาสตร์ประชากร สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลัย : หน้า ๕๖ .

อุมาพร ตรังคสมบัติ, จิตบำบัดและการให้คำปรึกษาครอบครัว, พิมพ์ครั้งที่ ๕ : กรุงเทพฯ หน้า 13-14 .

Sternberg, R. J. (1986) A triangular theory of love. Psychological Review, 93, 119-135.,

สืบค้นข้อมูล วันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๓.

http://www.wairunclickcick.com/index.php/teen-in-love/love-in-teenage. เข้าถึงข้อมูลวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๓.

https://today.line.me/th/article/Philosophical+Love. เข้าถึงข้อมูลวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๓.

http://www.nicfd.cf.mahidol.ac.th/-การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการในวัยรุ่น, ข้อมูลวันที่ 2 กุมภาพันธ์๒๕๖7.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-12-31

รูปแบบการอ้างอิง

กิจเดช ธ. . (2024). ศิลปะและการสร้างภูมิคุ้มกันทางความรักวิถีพุทธของวัยรุ่น ในยุค Disruption . วารสารพุทธอาเซียนศึกษา, 9(2). สืบค้น จาก https://so07.tci-thaijo.org/index.php/basj/article/view/6012

ฉบับ

ประเภทบทความ

Academic article

หมวดหมู่