แนวทางการส่งเสริมการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี

บทคัดย่อ

      การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี 2) เพื่อเปรียบเทียบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี จําแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล 3) เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี กลุ่มตัวอย่าง คือ ครู จำนวน 327 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามที่มีค่าความตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ.67-1.00 และความเที่ยงเท่ากับ.95วิเคราะห์ข้อมูลด้วย การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, การทดสอบค่า (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) ซึ่งเปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธี LSD
      ผลการวิจัยพบว่า 1) การบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในยุคดิจิทัล ทั้งภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการส่งเสริมพัฒนา รองลงมาตามลำดับ คือ ด้านการคัดกรองนักเรียน ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ด้านการป้องกันช่วยเหลือและแก้ไข ด้านเทคโนโลยีที่ใช้ในยุคดิจิทัล และ ด้านการส่งต่อนักเรียน 2) ผลการเปรียบเทียบการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในยุคดิจิทัล พบว่า โดยภาพรวมครูที่มี อายุ และประสบการณ์ในการทำงาน แตกต่างกันมีระดับความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และระดับการศึกษา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) แนวทางการส่งเสริมการบริหารระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในยุคดิจิทัล ควรใช้แอพพลิเคชัน ควรมีการประสานงานระหว่าง ผู้บริหาร ครู นักเรียนและผู้ปกครอง ในการให้ความร่วมมือดูแลนักเรียน โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น ผ่าน website โรงเรียน line. Facebook. สมาร์ทโฟน Google Meet มีการจัดตั้งกลุ่มไลน์ผู้ปกครองและกลุ่มไลน์นักเรียนแต่ละห้องกับครูที่ปรึกษา และควรสนับสนุนทุกฝ่ายมีส่วนร่วมส่งเสริม ป้องกัน แก้ไขปัญหา ช่วยเหลือนักเรียนทุกด้านและใช้เทคโนโลยีในการเก็บรวบรวมข้อมูลมากขึ้น