การส่งเสริมความเข้มแข็งทางจิตใจของนักเรียนด้วยหลักฆราวาสธรรม กรณีศึกษา : นักเรียนโรงเรียนสตรีทุ่งสง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
คำสำคัญ:
การส่งเสริมความเข้มแข็งทางจิตใ, หลักฆราวาสธรรมบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาแนวคิดทฤษฎีการส่งเสริมความเข้มแข็งทางจิตใจ 2) เพื่อศึกษาหลักฆราวาสธรรมที่ส่งเสริมความเข้มแข็งทางจิตใจของนักเรียน และ 3) เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งทางจิตใจด้วยหลักฆราวาสธรรมของนักเรียน : กรณีศึกษา นักเรียนโรงเรียนสตรีทุ่งสง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนักวิชาการทางด้านพระพุทธศาสนา กลุ่มผู้บริหารและคณะครู และกลุ่มผู้ปกครองและนักเรียน จำนวน 15 รูป/คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึกแบบมีโครงสร้างด้วยวิธีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งได้วิเคราะห์ข้อมูลจากแนวคิด ทฤษฎี งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และคำให้สัมภาษณ์ของผู้ให้ข้อมูลสำคัญตามวัตถุประสงค์การวิจัย และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนาประกอบบริบทงานวิจัย โดยลดข้อความที่ซ้ำซ้อนและพยายามรักษาสำนวนเดิมให้มากที่สุด
ผลการวิจัยพบว่า
1) การส่งเสริมความเข้มแข็งทางจิตใจของนักเรียนมี 4 องค์ประกอบ คือ รู้สึกดีกับตัวเอง จัดการชีวิตได้ มีสายสัมพันธ์เกื้อหนุน และมีจุดมุ่งหมายในชีวิต สามารถส่งเสริมได้ผ่านสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษาโดยใช้หลักบวร “บ้าน วัด โรงเรียน” ในการส่งเสริมความเข้มแข็งทางจิตใจของนักเรียน
2) หลักฆราวาสธรรม มี 4 องค์ประกอบ คือ สัจจะ ทมะ ขันติ และจาคะ เป็นหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิตของคฤหัสถ์ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตนเองโดยใช้หลักฆราวาสธรรมเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมความเข้มแข็งทางจิตใจจนสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในชีวิตได้
3) การส่งเสริมความเข้มแข็งทางจิตใจของนักเรียนด้วยหลักฆราวาสธรรมสามารถนำมาส่งเสริม ดังนี้ 3.1) รู้สึกดีกับตนเองด้วยหลักฆราวาสธรรม ส่งเสริมให้นักเรียนเห็นคุณค่าของตนเองด้วยความรักความเอาใจใส่จากบุคคลในครอบครัว บุคคลรอบข้างหรือนำตัวเองไปทำในสิ่งที่ตนเองถนัดหรือสนใจ 3.2) จัดการชีวิตได้ด้วยหลักฆราวาสธรรม ส่งเสริมให้นักเรียนวางแผนในการแก้ไขปัญหาอุปสรรค เข้าใจธรรมชาติของชีวิตว่าเป็นสิ่งที่ต้องพบเจอ 3.3) มีสายสัมพันธ์เกื้อหนุนด้วยหลักฆราวาสธรรม ส่งเสริมให้นักเรียนเป็นบุคคลที่รักษาคำพูด รู้จักการเสียสละเพื่อตนเองและผู้อื่น 3.4) มีจุดมุ่งหมายในชีวิตด้วยหลักฆราวาสธรรม ส่งเสริมให้นักเรียนกำหนดเป้าหมายในชีวิตและอดทนรอต่อเป้าหมายที่กำหนดจนประสบความสำเร็จ
เอกสารอ้างอิง
กรมสุขภาพจิต. (2561). แผนพัฒนาสุขภาพจิตแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2561–2580). กรุงเทพมหานคร: กระทรวงสาธารณสุข.
กมลาศ ภูวชนาธิพงศ์. (2567).การพัฒนาหมู่บ้านต้นแบบสันติสุขตามหลักคําสอนของศาสนาในชุมชนบ้านตลาดแขกจังหวัดนครศรีธรรมราช.วารสารพุทธจิตวิทยา, 9(4), 647-658.
ชลตวรรณ ขุมเพ็ชร, และคณะ. (2565). การส่งเสริมความสุขตามหลักฆราวาสธรรมในการปฏิบัติงานของครู. วารสารนิตยสารเสียงธรรมจากมหายาน,8(2),1-10.
ณัฐพล กาญจนสุวรรณ. (2566). ประเทศไทยในยุคดิจิทัล: รายงานสถิติผู้ใช้อินเทอร์เน็ต. เรียกใช้เมื่อ 1 ตุลาคม 2566 จาก https://www.ichi.co.th.
นฤภัค ฤธาทิพย์, และคณะ. (2565). ศึกษาผลของโปรแกรมการพัฒนาความเข้มแข็งทางใจในวัยรุ่น โดยใช้คู่มือสร้างสรรค์พลังใจให้วัยทีน. วารสารโรงพยาบาลสกลนคร, 25(2),54-62.
ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล (โหมดเกษม). (2562). รู้จักตนเองเพื่อพัฒนาใจ: แนวคิดการสร้างพลังใจเชิงจิตวิทยาเชิงบวก. กรุงเทพมหานคร: สสส.
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2566). รายงานสถานการณ์สุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นไทย ปี 2564. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์วิจัยสุขภาพจิตไทย.
เมืองไทยประกันชีวิต MTL. (2567). เด็กและเยาวชนคืออนาคตของประเทศ. เรียกใช้เมื่อ 1 ตุลาคม 2567 จาก https://www.muangthai.co.th.
โรงเรียนสตรีทุ่งสง. (2567). วิสัยทัศน์และพันธกิจโรงเรียน. เรียกใช้เมื่อ 1 ตุลาคม 2567 จาก https://www.stss.ac.th/content.php?files=vision.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2560). แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560– 2579. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตโต). (2562). จิตใจในยุคดิจิทัล: วิธีรับมือกับโลกเสมือนจริง. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ธรรมสภา.
