ความสัมพันธ์ระหว่างการตระหนักรู้ในตนเองกับความสามารถในการเผชิญปัญหา ของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยรามคำแหง

Main Article Content

สราวุฒิ ทวีรัตน์
อุมาภรณ์ สุขารมณ์

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ


การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการตระหนักรู้ในตนเองและความสามารถในการเผชิญปัญหาของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อเปรียบเทียบการตระหนักรู้ในตนเองและความสามารถในการเผชิญปัญหา จำแนกตาม เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา รายได้ และประสบการณ์การทำงานของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยรามคำแหง และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการตระหนักรู้ในตนเองกับความสามารถในการเผชิญปัญหาของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยรามคำแหง กลุ่มตัวอย่างเป็นบุคลากรสายสนับสนุน จำนวน 333 คน ที่ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิและการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถามปัจจัยส่วนบุคคล ลักษณะคำถามแบบให้เลือกตอบ แบบประเมินการตระหนักรู้ในตนเอง ลักษณะคำถามเป็นแบบมาตราส่วนประเมินค่า 5 ระดับ และแบบประเมินความสามารถในการเผชิญปัญหา ลักษณะคำถามเป็นแบบมาตราส่วนประเมินค่า 5 ระดับ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการศึกษา พบว่า บุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยรามคำแหง มีการตระหนักรู้ในตนเองและความสามารถในการเผชิญปัญหาในระดับมาก โดยบุคลากรสายสนับสนุนเพศหญิงมีการตระหนักรู้ในตนเองและความสามารถในการเผชิญปัญหาสูงกว่าบุคลากรสายสนับสนุนเพศชาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนอายุ สถานภาพ รายได้ต่อเดือน และประสบการณ์การทำงาน ที่แตกต่างกันของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยรามคำแหง มีการตระหนักรู้ในตนเองและความสามารถในการเผชิญปัญหาโดยรวมไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ระดับการศึกษามีผลต่อความสามารถในการเผชิญปัญหา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่ไม่พบความแตกต่างกับการตระหนักรู้ในตนเอง นอกจากนี้ยังพบว่าการตระหนักรู้ในตนเองมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความสามารถในการเผชิญปัญหา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = .805, p < .01)

Article Details

How to Cite
ทวีรัตน์ ส., & สุขารมณ์ อ. (2025). ความสัมพันธ์ระหว่างการตระหนักรู้ในตนเองกับความสามารถในการเผชิญปัญหา ของบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยรามคำแหง. วารสารจิตวิทยา, 22(1), 21–35. สืบค้น จาก https://so07.tci-thaijo.org/index.php/JPsychol/article/view/5319
บท
บทความวิจัย

References

เอกสารอ้างอิง

กานดา ศรีหะ. (2566). การศึกษาความสามารถในการเผชิญปัญหาและฝ่าฟันอุปสรรค ของนักศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วศ.บ.) สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ ภาคพิเศษ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต.

โกเมศ จันทร์เจริญ และคณะ. (2558). ปัจจัยในการทำงานที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดของผู้ปฏิบัติงานสายสนับสนุน ศึกษากรณี มหาวิทยาลัยมหิดล. เอกสารนำเสนอในการประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา ครั้งที่ 5, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย.

จิรัฏฐ์ จิตอรุโณทัย. (2565). ปัจจัยด้านความเครียดในการทำงานและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่เกี่ยวข้องกับงานด้านพิกัดอัตราศุลกากร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ญาณุตร ศิริทีปตานนท์, และ ทิพย์วัลย์ สุรินยา. (2567). ความสามารถในการเผชิญปัญหาและฟันฝ่าอุปสรรคความเหนื่อยหน่ายในงาน และผลการปฏิบัติงานของข้าราชการตํารวจ กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด สํานักงานตํารวจแห่งชาติ. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์].

ปาลรพี สิงห์สา. (2560). ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม การสนับสนุนทางสังคม กับการตระหนักรู้ในหน้าที่ของตนเอง กรณีศึกษาพนักงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ปิยะวัน วงษ์บุญหนัก และคณะ. (2565). การศึกษาความสามารถในการเผชิญและฝ่าฟันอุปสรรคของนักศึกษาเภสชัศาสตร์กรณีศึกษา: คณะเภสชัศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง. [รายงานการวิจัย]. มหาวิทยาลัยรังสิต.

พันราพี บุญนาค. (2560). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ภาวะผู้นำกับการตระหนักรู้ในหน้าที่ของตนเองของพนักงานมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

ภาคภูมิ ธีรสันติกุล และ เกษตรชัย และหีม. (2565). การพัฒนาการตระหนักรู้ในตนเองของนักศึกษา. วารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์, 12(3), 588-600.

วรรณกร เพชรด้วง. (2557). อิทธิพลของบุคลิกภาพและการขัดเกลาทางสังคมที่มีต่อความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคของนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย.

อภิษฎา พฤฒิวรวงศ์ และคณะ. (2559). ความตระหนักในคุณค่าตนเองของเยาวชนในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถีกรุงเทพมหานคร. [รายงานการวิจัย]. กรมกิจการเด็กและเยาวชน.

อลิษา กุลจันทะ. (2558). ปัจจัยที่มีผลต่อความเครียดในการทำงานของบุคลากรสายสนับสนุนในคณะวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยบูรพา.

Braun, V. (2019). Measuring the effects of self-awareness: Construction of the Self-Awareness Outcomes Questionnaire. Journal of Applied Psychology, 105(3), 257–277. https://doi.org/10.1037/apl0000362

Erikson, E. H. (1950). Childhood and society. W. W. Norton & Company.

Folkman, S., & Lazarus, R. S. (1980). An analysis of coping in a middle-aged community sample. Journal of Health and Social Behavior, 21(3), 219-239.

Goleman, D. (1998). Working with emotional intelligence. Bantam Books.

Islam, M. M., Islam, M. M., & Khoj, H. (2022). Coping mechanisms and quality of life of low-income households during the COVID-19 pandemic: Empirical evidence from Bangladesh. Sustainability, 14(24), 16570. https://doi.org/10.3390/su142416570

Knowles, M. S. (1973). The adult learner: A neglected species. Adult Education, 23(4), 252-259.

Skinner, N., Roche, M., & Smewing, C. (2019). Mindfulness and self-compassion training for university staff: A pilot study. Journal of Mental Health Training, Education and Practice, 14(4), 248–258.

Stoltz, P. G. (1997). Adversity quotient: Turning obstacles into opportunities. John Wiley & Sons.