การบริหารแบบมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการแหล่งเรียนรู้ ของโรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพและแนวทางการบริหารแบบมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ซึ่งเป็นการวิจัยแบบผสมผสาน 1) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานของโรงเรียน ได้มาโดยการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางเครจซีและมอร์แกน ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 432 คน ใช้วิธีสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ 2) ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ เป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการบริหารแบบมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก และ 2) แนวทางการบริหารแบบมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ประกอบด้วย 5 มิติหลัก ได้แก่ 1) การร่วมคิดตัดสินใจ การกำหนดทิศทาง และแก้ไขปัญหา การดำเนินงานของสถานศึกษา 2) การร่วมวางแผน มีส่วนร่วมในการวางแผนกลยุทธ์ กำหนดรายละเอียดหรือวิธีการดำเนินงาน และปรับปรุงแก้ไขปัญหา เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน รวมถึงจัดทำแผนปฏิบัติราชการขององค์กร 3) การร่วมดำเนินการ การเข้าร่วมและดำเนินการโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กรตามแผนงานที่วางไว้ และมีการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ดีขึ้น 4) การประเมินผล มีการติดตามความก้าวหน้า และประเมินผลในการปฏิบัติงาน เพื่อนำมาแก้ไขปรับปรุงร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของระบบงานต่าง ๆ และ 5) การร่วมรับผลประโยชน์ การนำความรู้ และทักษะไปใช้ในการสร้างผลงานที่ดี เพื่อให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีกับองค์กร
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ชินภัทร ภูมิรัตน์. (2552). การจัดการความรู้ทางการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
ธีรนุช จันทร์กองแก้ว. (2562). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานแห่งเรียนรู้วัฒนธรรมโรงเรียนสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้กระบวนการคุณภาพ PDCA. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
โนชญ์ ชาญด้วยกิจ. (2553). การศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาระยอง เขต 2. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณ.
ประจิน จั่นตอง. (2558). คำกล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษในรายงานการประชุม “ก้าวข้าม ขีดจำกัดสู่สหัสวรรษแห่งคุณภาพ” วันที่ 14 ตุลาคม 2558 . กรุงเทพมหานคร: ศูนย์นิทรรศการและประชุมไบเทค เขตบางนา .
พระอุดมสิทธินายก (กําพล คุณงฺกโร) และคณะ. (2567). การบริหารแบบมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการวัดให้เป็นแหล่งเรียนรู้. วารสาร มจร. บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์, 10(1), 143-153.
มนธิดา เก่งนำชัยตระกูล และกาญจนา สิงห์หา. (2567). การบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารสถานศึกษา การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 16 . นครปฐม: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
วาทินี พูลทรัพย์. (2563). องค์ประกอบการบริหารโรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ศรเนตร อารีโสภณพิเชฐ. (2561). นวัตกรรมการบริหารการศึกษาสู่การ เปลี่ยนแปลง “4 เรียนรู้”. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 46(4), 534-553.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). แนวทางการนิเทศบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่การนิเทศภายในโรงเรียนโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน. กรุงเทพมหานคร: หน่วยศึกษานิเทศก์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
อัสมี สมาน. (2562). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารจัดการสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16. ใน สารนิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา.
Cronbach, L. J. (1990). Essential of psychological testing. (5th ed.). New York: Harper Collins.
Krejcie, R. V. & Morgan D. W. (1970). “Determining Sample Size for Research Activities”. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Likert, R. (1967). The human organization: Its management and value. New York: McGraw-Hill.