การศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการคงอยู่ของครูและเจ้าหน้าที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีนนทบุรี ปีการศึกษา 2567

Main Article Content

ลักษณ์ชนากาญจน์ อินทร์จอหอ

บทคัดย่อ

            การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการคงอยู่ของครูและเจ้าหน้าที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีนนทบุรี ปีการศึกษา 2567 2) เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีอิทธิพลกับการคงอยู่ของครูและเจ้าหน้าที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีนนทบุรี ปีการศึกษา 2567 ประชากร คือ ครู จำนวน 51 คน เจ้าหน้าที่ จำนวน 18 คน รวม 69 คน โดยใช้วิธีการสุ่มแบบเจาะจง  เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ


            ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยที่มีผลต่อการคงอยู่ของครูและบุคลากรโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านลักษณะงาน รองลงมาคือ ด้านวัฒนธรรมองค์การ ด้านความสมดุลระหว่างชีวิตและการงาน ด้านภาวะผู้นำและการบริหาร ด้านการประเมินผลการปฏิบัติงาน ด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ และด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน ตามลำดับ 2) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยกับการคงอยู่ พบว่า ปัจจัยทั้งหมดมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความตั้งใจคงอยู่ในระดับสูงมาก (r = 0.81, p < .001) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการคงอยู่มากที่สุดคือ ด้านลักษณะงาน (β = 0.42, p < .01) รองลงมาคือ ด้านวัฒนธรรมองค์การ (β = 0.35, p < .01) ด้านภาวะผู้นำและการบริหารจัดการ (β = 0.30, p < .01) ด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ (β = 0.25, p < .05) และด้านการประเมินผลการปฏิบัติงาน (β = 0.18, p < .05) ส่วนด้านความสมดุลระหว่างชีวิตและการงาน (β = -0.12) และด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน (β = -0.08) ไม่มีอิทธิพลต่อการคงอยู่ของครูและบุคลากรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรรณิการ์ เกตทอง. (2559). สาเหตุและแนวโน้มการลาออก/โอนย้ายของข้าราชการในหน่วยงานวิชาการ: กรณีศึกษาสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) [วิทยานิพนธ์ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2541). เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 7). ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

บุญชม ศรีสะอาด. (2538). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 2). สิริวิทยาสาส์น.

บุญเชิด ภิญโญอนันตพงศ์. (2543). การวัดและประเมินผลการศึกษาทฤษฎีและประยุกต์ (พิมพ์ครั้งที่ 2). อักษรเจริญทัศน์.

ปรีดา กงกัญญา. (2556). การศึกษาความตั้งใจคงอยู่ในงานการสร้างอัตลักษณ์แห่งตน วัฒนธรรมองค์การลักษณะผู้นำที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพชีวิตในการทำงานของผู้บริหารกลุ่มบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยาแผนปัจจุบันและเครื่องสำอางแห่งหนึ่ง [วิทยานิพนธ์ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ภัณฑิลา ธนกิจธวัช. (2565). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความตั้งใจคงอยู่ในงานของครูโรงเรียนเอกชนในระบบที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม [วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

รวีวรรณ ชินตระกูล. (2535). การทำวิจัยทางการศึกษา. ที.พี. พรินท์.

ศิริชัย กาญจนวาสี. (2544). การเลือกใช้สถิติที่เหมาะสมสำหรับการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 4). บุญศิริการพิมพ์.

สถิรพร เชาวน์ชัย. (2564). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการคงอยู่ในการทำงานของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดพิษณุโลก. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม.

สมบัติ ท้ายเรือคำ. (2551). ระเบียบวิธีวิจัยสำหรับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. ประสานการพิมพ์.

สุกัญญา รัศมีธรรมโชติ. (2554). พัฒนาดาวเด่นเพื่อองค์กรที่เป็นเลิศด้วย Talent Management By Competency-Based Career Development and Succession Planning. บริษัท พริ้นท์ซิตี้.

สุธรรม รัตนโชติ. (2552). พฤติกรรมองค์การและการจัดการ. ท้อป.

สุธิดา โตพันธานนท์. (2549). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการคงอยู่ในองค์การของพยาบาลวิชาชีพกลุ่มพนักงานมหาวิทยาลัยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยของรัฐ [วิทยานิพนธ์ไม่ได้ตีพิมพ์]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Likert, R. (1967). The method of constructing an attitude scale. In M. Fishbein (Ed.), Attitude theory and measurement (pp. 90–95). Wiley & Sons.