การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

บทคัดย่อ

      การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษา 2) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษา 3) เพื่อนำเสนอแนวทางการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษา ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบผสมผสานวิธี โดยการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 คณะสังคมศาสตร์ จำนวน 180 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า (t-test) การทดสอบความแปรปรวนแบบทางเดียว (F-testor One- ANOVA) หากพบความแตกต่างทดสอบเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเซฟเฟ่ (Scheffé) ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 8 คน ใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท
      ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาคณะสังคมศาสตร์ ในภาพรวมกลุ่มตัวอย่างมีส่วนร่วมอยู่ในระดับปานกลาง (  = 3.07) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีส่วนร่วมอยู่ในระดับมาก จำนวน 1 ด้าน ได้แก่ ด้านการเลือกตั้ง (  = 3.73) และอยู่ในระดับปานกลาง จำนวน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการคัดค้าน (  = 3.16) ด้านกิจกรรมกลุ่ม (  = 2.97) ด้านการรณรงค์แก่พรรคการเมือง (  = 2.91) และด้านการติดต่อ (  = 2.58) ตามลำดับ 2) การทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความแตกต่าง ได้แก่ อายุ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 และเมื่อทำการทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยของอายุรายคู่ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ 21-23 ปี มีส่วนร่วมทางการเมืองด้านการเลือกตั้งแตกต่างกับกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป (Sig = 0.002) 3) แนวทางการพัฒนาการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษา ประกอบด้วย ควรให้การศึกษาของนักศึกษา ในเรื่องการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของนักศึกษา การใช้โยนิโสมนสิการ การศึกษาวิเคราะห์ปัญหา การเชื่อมโยงและประสานประโยชน์ร่วมกันระหว่างการเมืองภาคประชาชนด้วยกันเอง เป็นต้น