การบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของผู้บริหารสถานศึกษาในอำเภอกาญจนดิษฐ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร
คำสำคัญ:
การบริหารงาน, หลักสังคหวัตถุ 4, การบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุ 4บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักสังคหวัตถุ 4 2) เพื่อร่างแนวทางเกี่ยวกับการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักสังคหวัตถุ 4 3) เพื่อประเมินแนวทางการพัฒนาการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของโรงเรียนในอำเภอกาญจนดิษฐ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ครูโรงเรียนในอำเภอกาญจนดิษฐ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ทั้ง 4 โรงเรียน ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 108 คน โดยการสุ่มอย่างง่าย ซึ่งกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางเครจซี และมอร์แกนผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 ท่าน และ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 ท่าน โดยวิธีวิจัยเชิงปริมาณและคุณภาพ เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ แบบสัมภาษณ์ และแบบประเมิน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงพรรณนา
ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษาตามหลัก
สังคหวัตถุ 4 ของโรงเรียนในอำเภอกาญจนดิษฐ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมากที่สุด 2) แนวทางเกี่ยวกับการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของโรงเรียนในอำเภอกาญจนดิษฐ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ การบริหารงานวิชาการตามหลักสังคหวัตถุ 4 การบริหารงานแผนงานและงบประมาณตามหลักสังคหวัตถุ 4 การบริหารงานบุคคลตามหลักสังคหวัตถุ 4 การบริหารงานทั่วไปตามหลักสังคหวัตถุ 4 3) ระดับความเหมาะสมของแนวทางการพัฒนาการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของโรงเรียนในอำเภอกาญจนดิษฐ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร โดยภาพรวม มีความเหมาะสม คิดเป็นร้อยละ 97.32
เอกสารอ้างอิง
กมลทิพย์ ยิ่งบุรุษ, ทิพมาศ เศวตวรโชติ, สันติ อุนจะนำ. (2566). การประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุ 4 ในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็น ของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2. วารสารศึกษาศาสตร์ มมร, 12(2), 18.
ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2564). เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 15). กรุงเทพมหานคร: อมรการพิมพ์.
นภา ชาลี, พระครูปลัดสมชัย นิสฺสโภม, พระมหาสุภวิชญ์ ปภสฺสโร. (2565). การบริหารสถานศึกษาตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 7(2), 2239-2250.
บุญธรรม เมียนแก้ว. (2565). การบริหารงานสถานศึกษาตามหลักสังคหวัตถุ 4 ในโรงเรียนสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช. ใน สารนิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
พระสุวรรณมหาพุทธาภิบาล (โฮ้ สุภทฺโท). (2563). การบริหารจัดการโรงเรียนตามหลักศีล 5.วารสารบัณฑิตศาส์น, 16(2), 212-216.
ภัทรวรรณ ประโลม. (2565). การบริหารสถานศึกษาตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของผู้บริหาร สถานศึกษา กลุ่มคุณภาพการศึกษานาอ้อศรีเมืองชัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา, คณะครุศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มนตรา ลิ้มสกุลวานิชและคณะ. (2567). รูปแบบภาวะผู้นำใฝ่บริการตามหลักสังคหวัตถุ 4 สำหรับผู้บริหาร สถานศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร. วารสารสหวิทยาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์,7(2), 1231.
วุฒิศักดิ์ ชำนาญเขียว. (2565). การบริหารตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1. ใน สารนิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
สิริวดี ชูเชิด. (2564). การพัฒนาสมรรถนะบุคลากรในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพวารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 12(1), 223-238.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2561). บทบัญญัติด้านการศึกษาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560. เรียกใช้เมื่อ 30 กันยายน 2566 จากhttps://lamphuncity.go.th/wp.
อภิชัย เพ็งกรูด. (2565). แนวทางการพัฒนาการทำงานเป็นทีมของผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักสังคหวัตถุ 4 ในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอ่างทอง.ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา, คณะครุศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
