ผลการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับชุดฝึกทักษะรายวิชานาฏศิลป์พื้นเมืองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนในสหวิทยาเขตเมืองดอกบัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา อุบลราชธานี อำนาจเจริญ
คำสำคัญ:
การจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้าน, ชุดฝึกทักษะ, นาฏยศัพท์และภาษาท่าบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะนาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ในการประดิษฐ์ท่ารำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนนาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ในการประดิษฐ์ท่ารำ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาทักษะนาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ในการประดิษฐ์ท่ารำ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับชุดฝึกทักษะของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4 ที่เรียนรายวิชานาฏศิลป์พื้นเมือง โรงเรียนปทุมพิทยาคม จำนวน 28 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 50 ข้อ 3) ชุดฝึกทักษะนาฏยศัพท์และภาษาท่า จำนวน 12 ชุด และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระต่อกัน
ผลการวิจัย พบว่า 1) ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับชุดฝึกทักษะ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 80.25/82.75 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ทักษะนาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ในการประดิษฐ์ท่ารำ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยรวมอยู่ในระดับมาก และ 4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้การจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยรวมอยู่ในระดับมาก
เอกสารอ้างอิง
กิติศักดิ์ สุทธิ. (2566). การพัฒนาชุดการสอนนาฏการเพื่อส่งเสริมความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ด้านนาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 .ในวิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยศิลปากร.
ชลธิชา วิมลจันทร. (2563). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้แนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง อัตราส่วน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 . ใน วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏกลนคร.
ประทีป สุวรรณโร. (2566). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านเพื่อพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ในงานทัศนศิลป์สำหรับนักศึกษาสาขาวิชาศิลปศึกษาชั้นปีที่ 1.วิจัยในชั้นเรียน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ฐานิตา ลิ่มวงศ์ และยุพาภรณ์ แสงฤทธิ์. (2562). ห้องเรียนกลับด้าน: การเรียนรู้แนวใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21. วารสาร Mahidol R2R e-Journal, 6(2), 9-17.
ยศวดี พงษ์สวัสดิ์และสัจธรรม พรทวีกุล. (2566). การพัฒนาทักษะปฏิบัตินาฏยศัพท์ โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนของเดวีส์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 12(1), 19-26.
รสสุคนธ์ เพ็ญเนตร. (2561). การพัฒนาทักษะปฏิบัตินาฏยศัพท์และภาษาท่า โดยใช้การเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ เทคนิค TAI ร่วมกับแนวคิดการสอนปฏิบัติของแฮร์โรว์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. ในวิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
วิสุดา เต้าทอง. (2565). การพัฒนาชุดฝึกทักษะนาฏยศัพท์ วิชาศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะสำหรับนักเรียนขั้นประถมศึกษาปีที่ 4 .ใน สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชธานี.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2562). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง) พุทธศักราช 2560. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
ศุภาษิตา ลุงหม่อง. (2563). การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ วิชานาฏศิลป์ เรื่องระบำกฤษดาภินิหารสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านเปียงหลวง จังหวัดเชียงใหม่ .ในการศึกษาค้นคว้าอิสระ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตแขนงวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ศิริเสน่ห์ หอมนาน. (2564). การพัฒนาชุดการเรียนรู้เรื่องนาฏยศัพท์และภาษาท่านาฏศิลป์ไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่. วิจัยในชั้นเรียน ครูโรงเรียนเทศบาล 1 บ้านชะอำ ชะอำวิทยาคาร กองการศึกษา เทศบาลเมืองชะอำ.ในวิจัยในชั้นเรียน.โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านชะอำ ชะอำวิทยาคาร.
ศศิณา นิยมสุข. (2565). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ทักษะปฏิบัตินาฏศิลป์ เรื่องรำวงมาตรฐาน โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนทักษะปฏิบัติของเดวีส์ร่วมกับ แอปพลิเคชัน TikTok สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. ในวิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน. (2560) การเรียนรู้เพื่อทักษะแห่งอนาคต. เรียกใช้เมื่อ 15 ตถลาคม 2567 จาก https://bpcd.vec.go.th/Portals.
สุนิศา ศรีนุยเพ็ง. (2562). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD เรื่องนาฏยศัพท์และภาษาท่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 .ในวิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม.
สุรศักดิ์ ปาเฮ. (2556). ห้องเรียนกลับทาง: ห้องเรียนมิติใหม่ในศตวรรษที่ 21, เรียกใช้เมื่อ 9 พฤษภาคม 2562. จาก http://phd.mbuisc.ac.th/academic.
ห้องสมุดไอเดีย. (2560). พื้นที่รวบรวมไอเดีย กิจกรรม สื่อ เทคนิคการสอน. เรียกใช้เมื่อ 15 มีนาคม 2568 จาก https://inskru.com/idea-library.
Bergmann, J., & Sams, A. (2012). Flip your classroom: Reach every student in every class every day. Eugene, OR: International Society for Technology in Education.
Bergman, J. and Sams, A. (2014). Flipped Learning : Gateway to Student Engagement. Washington: International Society for Technology in Education.
Blogger.com (2560). สี่เสาหลักของThe Flipped Classroom [บทความบล็อกเกอร์.เรียกใช้เมื่อ 15 มีนาคม 2568 จาก https://4theflippedclassroom.blogspot.com
Chularee, Amornrit (2021). The Effects of Flipped Classroom with Jeopardy Game-based Learning on Nursing Students’ Learning and In-Class Behaviors in a Fundamental Nursing Course, Suranaree University of Technology.
Marlowe, C. A. (2012). The Effect of The Flipped Classroom on Student Achievement and Stress. (Master Degree in Science Education), Montana State University.
Oungthong, Pupat and Mangkhalakun (2018). A Development of Flipped Classroom Instruction Model to Enhance Learning Achievement in The Principles of Teaching Profession course. Journal of Humanities and Social Sciences ThonburiUniversity,12(29),82–92.
Panyajirawut Pongladda and Panyajirawut Wanwisa (2023). Study of Effect of Flipped Classroom Approach on Learning Achievement in Contemporary Physics Course.JournalofeducationSilapakorn university.
