ความต้องการจำเป็นและแนวทางการพัฒนาด้านนวัตกรของครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1
คำสำคัญ:
ความต้องการ, แนวทางการพัฒนา, ด้านนวัตกรบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นด้านนวัตกรของครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1 และ 2) ศึกษาแนวทางการพัฒนาด้านนวัตกรของครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1 ดำเนินการวิจัย 2 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาความต้องการจำเป็นด้าน นวัตกรของครูผู้สอน ประชากรที่ใช้ในงานวิจัย ได้แก่ ครูผู้สอนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1 จำนวน 1,135 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้จำนวน 287 คนจากการเทียบสัดส่วนตารางเครจซี่และมอร์แกน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน และจัดลำดับความต้องการจำเป็น ขั้นตอนที่ 2 ศึกษาแนวทางการพัฒนาด้านนวัตกรของครูผู้สอน จากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า
- ความต้องการจำเป็นด้านนวัตกรของครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1 ประเด็นที่มีความต้องการจำเป็นสูงสุด ได้แก่ การปฏิบัติการ การคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และการมุ่งสู่อนาคต ตามลำดับ
2. แนวทางการพัฒนาด้านนวัตกรของครูผู้สอน พบว่า การมุ่งสู่อนาคตควรจัดการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ศึกษาบริบทต่าง ๆ และนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพในการสอน การคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ควรจัดการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์จริง เน้นการคิดเชิงวิเคราะห์และสะท้อนผลอย่างต่อเนื่อง การตั้งคำถามควรศึกษาความรู้ใหม่ตลอดเวลา และพัฒนาวิธีการสอนตามบริบทของผู้เรียนอย่างเป็นระบบ การปฏิบัติการควรใช้วิธีการเรียนรู้แบบ Active Learning และควรได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร และการสร้างเครือข่ายควรเข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ(PLC) อย่างสม่ำเสมอและต่อยอดองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
กนกพร อ่อนแก้ว. (2562). สมรรถนะสำคัญของครูในศตวรรษที่ 21. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและการจัดการการศึกษา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
กาญจนา ตั้งชลทิพย์. (2561). การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning). ใน วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
นิภาพร สุทธิสว่าง. (2562). การใช้กระบวนการเรียนรู้แบบโครงงานในโรงเรียนมัธยมศึกษา. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 10). สุวีริยาสาส์น.
ปาริชาติ เทียนทอง. (2561). การใช้คำถามปลายเปิดในห้องเรียนเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน. ในวิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยบูรพา.
พรทิพย์ อุทัยเลิศ. (2561). การพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการ PLC เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาศักยภาพมนุษย์. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.
วิไลลักษณ์ ไกรเดช. (2564). รูปแบบการพัฒนาครูเพื่อสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา). มหาวิทยาลัย มหาสารคาม.
สุกัญญา แช่มช้อย. (2561). การบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. (พิมพ์ครั้งที่ 1/2561). กรุงเทพมหานคร. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุกัญญา แช่มช้อย. (2565). การบริหารสถานศึกษาเพื่อสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์. (พิมพ์ครั้งที่ 1/2565). กรุงเทพมหานคร. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุภาพร สิงห์ไชย. (2564). บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการพัฒนาวิชาชีพครู. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สุพัตรา ศรีสุข. (2562). การพัฒนาชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในโรงเรียนขนาดเล็ก. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุบลราชธานี.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2562). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สุวีริยาสาสน์.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2564). แนวทางการขับเคลื่อนชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC). สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1. (2566). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566. พิษณุโลก. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1. (2567). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567. พิษณุโลก. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560 – 2579. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610. https://doi.org/10.1177/001316447003000308
OECD. (2019). Policy coherence for sustainable development 2019. OECD Publishing. https://doi.org/10.1787/9789264301061-en
Redecker, C., & Punie, Y. (2017). European framework for the digital competence of educators: DigCompEdu. Publications Office of the European Union. https://doi.org/10.2760/159770.
UNESCO. (2015). Learning for all: Guidelines on the inclusion of learners with disabilities in open and distance learning. UNESCO. from https:// unesdoc.unesco.org/ark:/48223/ pf0000232555.
UNESCO. (2016). Teacher policy development guide: Summary. UNESCO. from https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000245656.
World Economic Forum. (2020). The future of jobs report 2020. from https://www.weforum.org/reports/the-future-of-jobs-report-2020.
