APPLICATION OF THE FOUR IDDHIPĀD OF POWER IN QUALITY DEVELOPMENT OF EDUCATIONAL ADMINISTRATION
Keywords:
Four Iddhipāda, Quality, Educational AdministrationAbstract
This article aims to study the Four Iddhipāda of influence, consisting of chanda, viriya, citta, and vimangsa, as important tools for developing the quality of educational administration to be effective and sustainable. Motivating personnel through supporting the work environment and setting common goals helps to enhance job satisfaction and dedication to the development of the educational institution to the fullest (chanda). Perseverance in facing problems and managing resources effectively helps to develop the quality of teaching and learning and enhance the potential of personnel (viriya). Attention to following up and building good relationships among all parties will promote a warm and cooperative atmosphere in the organization (citta). Using wisdom in strategic planning and careful decision-making helps to develop the management process and increase transparency in the organization (vimangsa). Applying the Four Iddhipāda of influence in educational administration will help to create success in developing the quality of education and sustainability of the educational institution.
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542 แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2545, กรุงเทพมหานคร: คุรุสภา.
ทวี มณีสาย และ ชัยสมร ทนทาน. (2563). การบริหารงานคุณภาพในองค์กร, กรุงเทพมหานคร: ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ จำกัด.
ธร สุนทรายุทธ. (2551). การบริหารจัดการเชิงปฏิรูป: ทฤษฎีวิจัย และปฏิบัติทางการศึกษา.กรุงเทพมหานคร: เนติกุลการพิมพ์.
เปรมชัย สโรบล. (2550). ปัจจัยการบริหารที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ผกา สัตยธรรม. (2544). คุณธรรมของครู, กรุงเทพมหานคร: พลอยเพลท.
พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตโต). (2551). ทำอย่างไรจึงจะเรียนเก่ง, กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระวุฒิพงษ์ ถาวรจิตฺโต (รักเรียน). (2553). การนำหลักอิทธิบาท 4 มาใช้ในการปฏิบัติงาน: ศึกษาเฉพาะกรณีองค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน. ใน วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระกีต้าร์ กิตติวุฑฺโฒ (วิไลวงศ์). (2560). การบริหารแบบมีส่วนร่วมตามหลักอิทธิบาท 4 ของโรงเรียนมัธยมสงฆ์แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระอภินันท์ กนฺตสีโล (สิงมาดา). (2563). การบริหารสถานศึกษาตามหลักอิทธิบาท 4 ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอำเภอนาดูน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2. วารสาร Journal of Modern Learning Development,5(4),64.
พระศรายุทธ วชิรปญฺโญ. (2565). กลยุทธ์การบริหารงานวิชาการตามหลักไตรสิกขาในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา เขต 5. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
รังสิมา มั่นใจอารีย์. (2547). การพัฒนางานด้วย ระบบคุณภาพ และเพิ่มผลผลิต. กรุงเทพมหานคร: พัฒนาการวิชาการ.
วรภัทร ภู่เจริญ. (2548). องค์กรแห่งการเรียนรู้และการบริหารความรู้, กรุงเทพมหานคร: อริยชน.
วิลาวัณย์ จารุอริยานนท์. (2553). การพัฒนารูปแบบการบริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อการขับเคลื่อนการจัดการความรู้สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏ. ใน ปริญญาครุศาสตรดุษฏีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สมคิด สกุลสถาปัตย์. (2552). รูปแบบภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิผลในการปฏิรูปการศึกษาแบบยั่งยืน. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). การศึกษาแนวโน้มความต้องการกำลังคนโดยยึดพื้นที่เป็นฐาน. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2563). AI เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ (หนังสืออิเล็กทรอนิกส์) สำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
Haydren, M. & Thomson, J. (2000). International Schools International Education, London: Routledge.
Lunenberg, F. C. & Ornstein. (2004). A.C., Education Administration, 4thed., Belmont: Thomson Learning.
Nightingale, Kath. (2002). Taxation 2001-2002: updated: theory and practice, New York: Financial Times Prentice Hall.