ความสัมพันธ์ระหว่างการเสริมพลังอำนาจและการเห็นคุณค่าในตนเองของพนักงานในผู้จัดจำหน่ายยานยนต์

Main Article Content

ชัชว์รวี กลิ่นหอม
นนทิรัตน์ พัฒนภักดี
นนทิรัตน์ พัฒนภักดี

บทคัดย่อ

          การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับการเสริมพลังอำนาจและการเห็นคุณค่าในตนเองของพนักงานในผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ (2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเสริมพลังอำนาจและการเห็นคุณค่าในตนเองของพนักงานในผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัยเป็น พนักงานในผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ รวมจำนวน 255 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามการเสริมพลังอำนาจและการเห็นคุณค่าในตนเอง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า (1) ค่าเฉลี่ยการเสริมพลังอำนาจของพนักงานในผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนการเห็นคุณค่าในตนเองของพนักงานในผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (2) การเสริมพลังอำนาจมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการเห็นคุณค่าในตนเองของพนักงานในผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = .694)

Article Details

How to Cite
กลิ่นหอม ช., พัฒนภักดี น. ., & พัฒนภักดี น. . (2022). ความสัมพันธ์ระหว่างการเสริมพลังอำนาจและการเห็นคุณค่าในตนเองของพนักงานในผู้จัดจำหน่ายยานยนต์. วารสารจิตวิทยา, 19(2). สืบค้น จาก https://so07.tci-thaijo.org/index.php/JPsychol/article/view/1058
บท
บทความวิจัย

References

บัณฑิตา อินสมบัติ. (2554). ข้อพิจารณาในการคัดเลือกข้อคำถามที่มีอำนาจการจำแนก. วารสารวิชาการบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, 6(16), 1-12.

ปกรฒ์ เชื้อแก้วจิญดา. (2560). การเห็นคุณค่าในตนเองของคนงานกวาดถนนสังกัดกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์สังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาบัณฑิต สาขาวิชาการ

วิจัยทางสังคม. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

พรฐิตา ฤทธิ์รอด และคณะ. (2556). รูปแบบการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานแบบเสริมพลังอำนาจ. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 15(1), 60-69.

พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2547). ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 2. เฮ้า ออฟเคอร์มีส์ท์.

พิสณุ ฟองศรี. (2552). การสร้างและพัฒนาเครื่องมือวิจัย. ด่านสุทธาการพิมพ์.

ภัทรพร คงวิจิตต์. (2560). โปรแกรมพัฒนาเทคนิคการเสริมพลังอำนาจและการเห็นคุณค่าในตนเองสำหรับนักพัฒนาสังคม. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขา

วิชาการศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนามนุษย์บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

สุชาติ ประสิทธ์ิรัฐสินธุ์. (2546). ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์. สำนักพิมพ์เฟื่องฟ้าพริ้นติ้งจำกัด.

สุภาพร แนวบุตร. (2558). ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจต่อความสามารถในการดูแลตนเองของผู้ดูแลผู้ป่วยในครอบครัว. วารสารการพยาบาลและการ

ศึกษา, 8(4), 30-40.

Blanchard, K., Carlos, J. P. and Randolph, A. (2009). The 3 keys to empowerment: Release the power within people for astonishing results.

Berrett-Koehler.

Branden, N. (1969). The psychology of self-esteem. Bantam.

Gardner, D. G., & Pierce, J. L. (2013). Focus of attention at work and organization‐based self‐esteem. Journal of Managerial Psychology, 28(2),

–132.

Tracy, D. (1990). 10 Steps to empowerment: A common-sense guide to managing people. William Morrow.