การพัฒนาโปรแกรมฝึกทักษะการเป็นผู้ให้การปรึกษา เพื่อเสริมสร้างการรับรู้ความสามารถของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1
คำสำคัญ:
ทักษะการเป็นผู้ให้การปรึกษา, การรับรู้ความสามารถ, นิสิตนักศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการพัฒนาโปรแกรมฝึกทักษะการเป็นผู้ให้การปรึกษา เพื่อเสริมสร้างการรับรู้ความสามารถของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 และเพื่อศึกษาผลของโปรแกรมฝึกทักษะการเป็นผู้ให้
การปรึกษา เพื่อเสริมสร้างการรับรู้ความสามารถของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 กลุ่มเป้าหมาย คือ นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยนาฏศิลปแห่งหนึ่ง จำนวน 35 คน ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาจิตวิทยาสำหรับครู ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 โดยใช้การเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) โปรแกรมฝึกทักษะการเป็นผู้ให้การปรึกษา เพื่อเสริมสร้างการรับรู้ความสามารถของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 2) แบบประเมินการรับรู้ความสามารถของนักศึกษา 3) แบบสังเกตการฝึกทักษะการเป็นผู้ให้การปรึกษาของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 และ 4) แบบสัมภาษณ์นักศึกษาที่เข้าร่วมโปรแกรมฝึกทักษะการเป็นผู้ให้การปรึกษา เพื่อเสริมสร้างการรับรู้ความสามารถของนักศึกษาระดับปริญญาตรี
ชั้นปีที่ 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การวิเคราะห์คะแนนเพิ่มสัมพัทธ์ เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังการฝึกทักษะการเป็นผู้ให้การปรึกษา วิเคราะห์และแปลผลแบบสังเกตการฝึกทักษะการเป็นผู้ให้การปรึกษา และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาที่เข้าร่วมการวิจัยมีคะแนนจากแบบประเมินการรับรู้ความสามารถ
ในระยะหลังสูงกว่าระยะก่อนเข้าร่วมโปรแกรมฯ และส่วนใหญ่มีคะแนนจากแบบสังเกตการฝึกทักษะการเป็นผู้ให้การปรึกษาอยู่ในระดับดี นอกจากนี้การวิเคราะห์เนื้อหา พบว่า โปรแกรมฝึกทักษะการเป็นผู้ให้การปรึกษา สามารถเสริมสร้างการรับรู้ความสามารถของนักศึกษาให้เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
เอกฉัตร วิทยอภิบาลกุล และคณะ. (2561). การศึกษาวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคในการเรียนของนักศึกษาปีที่ 1 หลักสูตรนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา. ในงานการประชุมวิชาการด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ 1 “มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ : พลังปัญญาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” (623-631). สงขลา: มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา.
กมล โพธิเย็น. (2564). การให้การปรึกษาทางจิตวิทยา : เครื่องมือสำคัญในการแก้ปัญหาผู้เรียน. วารสาร ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 19(2), 11-27.
กฤตวรรณ คำสม. (2564). “นักศึกษา” กับการเป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่เพื่อน. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 10(2), 197-206.
จีน แบรี่. (2549). การให้การปรึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพมหานคร: เจริญวิทย์พิมพ์.
ชาติชาย พิทักษ์ธนาคม. (2559). การให้คำปรึกษาแบบพิจารณาความเป็นจริง. สารนิพนธ์พุทธศาสตรบัณฑิต ประจำปี 2559. คณะครุศาสตร์ มจร ส่วนกลาง.
ณรัญญา มีชัย พลากร สืบสำราญ ปวีณา ลิมปิทีปราการ รัตติกาล วังคะฮาต จิวรา โสดากุล กฤติญา จันทร์พันธ์
ตนุภัทร โลหะพงศธร และณัฐมน สุนทรมีเสถียร. (2564). (2021 May 4). พลังของ Self-Efficacy หากเชื่อมั่นว่าตัวเองเก่งและมีความสามารถ ย่อมทำสิ่งนั้นได้สำเร็จ. https://becommon.co/life/heart-self-efficacy/.
บังอร เสรีรัตน์. (2560). การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบร่วมด้วยช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อ พัฒนาการรับรู้ความสามารถของตนเองของนักเรียน. วารสารครุศาสตร์สาร, 11(1), 91-104.
บุญเลี้ยง ทุมทอง และประทวน วันนิจ. (2565). ผลกระทบจากสถานการณ์โควิดที่มีต่อการจัดการศึกษาไทย: การศึกษาทางเลือก คือทางหลักและทางรอดในการจัดระบบการศึกษาไทยในอนาคต. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 22(4), 375-391.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ: ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งชาติ.
พัชร์สิตา อภิศาสวัตวงศ์, เฉลิมขวัญ สิงห์วี และธีรพัฒน์ วงศ์คุ้มสิน. (2565). การรับรู้ความสามารถของตนเอง แรงจูงใจ และภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ ของวิศวกรในบริษัทผลิตเครื่องมือแพทย์แห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี. วารสารการวัดผลการศึกษา, 39(105), 150-160.
พัชราภรณ์ ศรีสวัสดิ์. (2561). การศึกษาและพัฒนาการรับรู้ความสามารถในการให้คำปรึกษาของครูแนะแนว. วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์, 19(1), 150-159.
ลัลน์ลลิต กันธิยะ วัลภา สบายยิ่ง และนิรนาท แสนสา. (2561). ผลการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวตามเทคนิค
ตัวแบบสื่อสังคมเพื่อพัฒนาการรับรู้ความสามารถในการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง กรุงเทพมหานคร. ในงานการประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับชาติมหาวิทยาลัย
สุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 8 (1443-1456). นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
วัชรี ทรัพย์มี. (2547). ทฤษฎีให้บริการปรึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 3. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศิริชัย กาญจนวาสี. (2552). ทฤษฎีการทดสอบแบบตั้งเดิม. พิมพ์ครั้งที่ 6. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สมชาย รัตนทองคำ. (2550). พัฒนาการของผู้เรียนและจิตวิทยาการเรียนรู้. เอกสารประกอบการสอน รายวิชาการสอนทางกายภาพบำบัด [เอกสารที่ไม่มีการตีพิมพ์]. สายวิชากายภาพบำบัด คณะเทคนิค การแพทย์. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสมาคมแนะแนวแห่งประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการ. (2559). การให้คำปรึกษา. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศไทย จำกัด.
Fürtjes, S., Voss, C., Rückert, F., K.V. Peschel, S., Kische, H., Ollmann, T., Berwanger, J and Beesdo-Baum, K. (2023). Self-efficacy, stress, and symptoms of depression and anxiety in adolescents: An epidemiological cohort study with ecological momentary assessment. Journal of Mood & Anxiety Disorders, 4, 1-11.
Mand, F. J., Plexico, L. W., Erath, S. A. and Hamilton, A. (2023). (2023 January 10) Speech - language pathologists’ counselor self-efficacy. Journal of Communication Disorders, 101. https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0021992422001149
Min, R. M. (2012). Self-Efficacy Whilst Performing Counselling Practicum Promotes Counsellor Trainees Development: Malaysian Perspective. Procedia-Social and Behavioral Sciences, Volume 69, 2014-2021.
Mullen, R. P., Mary, W., Uwamahoro, O. and Blount, J. G. (2015). Development of Counseling
Students' Self-Efficacy During Preparation and Training. The Professional Counselor, 5(1), 175-184.
Ooi, P. B., Jaafar, W. M. B. W. and Baba, M. B. (2018). Relationship between sources of counseling self - efficacy and counseling self - efficacy among Malaysian school counselors. The Social Science Journal, 55(3), 369-376.
Sharpley, C and Ridgway, I. (1993). An Evaluation of the Effectiveness of Self-Efficacy as a Predictor of Trainees' Counselling Skills Performance. British Journal of Guidance & Counselling, 21(1), 73-81.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สมาคมจิตวิทยาแห่งประเทศไทย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมจิตวิทยาแห่งประเทศไทย
ข้อความที่ปรากฎในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสมาคมจิตวิทยาแห่งประเทศไทย แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว