การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ และคุณธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 5 โดยใช้นิทานอีสปและใช้วิธีการบันทึกแบบคอร์เนลล์

ผู้แต่ง

  • ผัสสพรรณ ถนอมพงษ์ชาติ

คำสำคัญ:

English language achievements, moral, Aesop’s fables, the Cornell note taking method

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษและคุณธรรมรวม 4 ด้าน ได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริต ความกตัญญู ความเสียสละ และความเมตตากรุณา และพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนก่อนการสอนและหลังการสอนระหว่างกลุ่มที่ใช้วิธีสอนต่างกัน 2 วิธีคือกลุ่มที่สอนโดยใช้นิทานอีสปและใช้วิธีการบันทึกแบบคอร์เนลล์กับกลุ่มที่สอนด้วยวิธีการปกติและระหว่างชั้น 2 ชั้น คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4และชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (2) ติดตามศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษและคุณธรรมรวม 4 ด้าน และพฤติกรรมการเรียนระหว่างเรียนรวม 8 ครั้งเฉพาะกลุ่มที่สอนโดยใช้นิทานอีสปและใช้วิธีการบันทึกแบบคอร์เนลล์ทั้งชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 5 (3) ศึกษาผลของรูปแบบการสอนและระดับชั้นที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ คุณธรรมรวม 4 ด้าน และพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จ านวน 31 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 40 คน เพื่อใช้เป็นกลุ่มทดลอง และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จ านวน 30 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 40 คนเพื่อใช้เป็นกลุ่มเปรียบเทียบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษและคุณธรรมโดยใช้นิทานอีสปและใช้วิธีการบันทึกแบบคอร์เนลล์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ(A) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ(B) แบบวัดคุณธรรม แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนโดยตนเองและแบบประเมินพฤติกรรมการเรียนโดยเพื่อน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยด้วยการทดสอบ t (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบวัดซ้ า และการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบ 2 ทาง ผลการวิจัยพบว่า(1) ค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (A) ค่าเฉลี่ยคุณธรรมรวม 4 ด้าน ของกลุ่มทดลองในระดับป.4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเป็นไปตามสมมติฐานวิจัย ส่วนค่าเฉลี่ยพฤติกรรมการเรียนที่ประเมินโดยครูหลังเรียนต่ ากว่าก่อนเรียนซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานวิจัย (2) ค่าเฉลี่ยคุณธรรมรวม 4 ด้าน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเป็นไปตามสมมติฐานวิจัย ส่วนค่าเฉลี่ยพฤติกรรมการเรียนที่ประเมินโดยครูของกลุ่มทดลองในระดับป.5 หลังเรียนต่ ากว่าก่อนเรียน ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานวิจัย ส่วนค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (A) ก่อนเรียนสูงกว่าหลังเรียนซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานวิจัย (3) ระดับชั้นที่แตกต่างกันมีผลต่อค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (A) ส่วนวิธีการสอนที่แตกต่างกันมีผลต่อค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (A) อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และพบว่าไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างระดับชั้นและวิธีการสอนที่ส่งผลต่อค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (A) (4) ระดับชั้นและวิธีสอนที่แตกต่างกันมีผลต่อค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (B) อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 แต่พบว่ามีปฏิสัมพันธ์ระหว่างระดับชั้นและวิธีการสอนที่ส่งผลต่อค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ (B) (5) ระดับชั้นและวิธีสอนที่แตกต่างมีผลต่อค่าเฉลี่ยคุณธรรมรวม 4 ด้าน อย่างไม่มีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และพบว่าไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างระดับชั้นและวิธีสอนที่ส่งผลต่อค่าเฉลี่ยคุณธรรมรวม 4 ด้าน

References

Belmont-Redwood Shores School District. (2006). Retrieved from http://www.clt.cornell.edu/

Brand, K. (2001). The use of Grimm’s fairy tales to understand the moral content in fairy tales. Retrieved from

http://db.igroupnet.com/dao/search.nsp

He, T., Gou, W. J., and Chang, S. M. (2015). Parental involvement and elementary school student’s goal, maladaptive behaviors and

achievement in learning English as a foreign language. Learning and Individual Differences.39,205-210.

Leaf, M. (1979). Aesop’s fables. Connecticut: the Easton Press. Madson, H. (1983). Teaching in testing. New York: Oxford University Press.

Moser, G. P., and Morrison, T. G. (1998). Increasing students’ achievement and interest in reading. Reading Horizons 38(4) (March/April), 233-245.

Oxford, R. L. (1990). Language learning strategies: What every teacher should know. New York: Newbury Hose Publishers.

Pauk, W. (1984). How to study in college. Houghton: Miffin Company.

Additional Files

เผยแพร่แล้ว

2022-04-21 — Updated on 2022-04-21

Versions

ฉบับ

บท

Research Articles