Evaluation of Master Education Program in Educational Administration Graduate School (Revised 2019) Thonburi University Evaluation of Master Education Program in Educational Administration Graduate School (Revised 2019) Thonburi University

Main Article Content

Pathomporn Indrangkura Na Ayudthya
Nitsinee Kuprasert
Suthathip Trisin

Abstract

The purpose of this research is to evaluate the master education program in educational administration graduate school (Revised 2019) Thonburi University By using the CIPPIEST Model. The total curriculum at population is 212 people, divided into 5 groups: such as graduates, students, instructors, administrators, and stakeholders. Collect research data such as a questionnaire. The data analysis used frequency distribution, percentage, mean, and standard deviation.


From the research results it was found that the overall evaluation results were appropriate at a high level (equation= 4.50, S.D. = 0.64). The Context Evaluation (equation= 4.69, S.D. = 0.52) and Process Evaluation (equation= 4.67, S.D. = 0.55) were at the highest level. The suitability assessment results are followed by the Impact Evaluation (equation= 4.49, S.D. = 0.66), Transportability Evaluation (equation= 4.48, S.D. = 0.65), Effectiveness Evaluation (equation= 4.46, S.D. = 0.65), Sustainability Evaluation (equation= 4.46, S.D. = 0.70), Product Evaluation (equation= 4.37, S.D. = 0.69) and Input Evaluation (equation= 4.35, S.D. = 0.73) were at a high level. The Input Evaluation was the aspect with the lowest average.

Article Details

How to Cite
Indrangkura Na Ayudthya, P., Kuprasert, N., & Trisin, S. (2024). Evaluation of Master Education Program in Educational Administration Graduate School (Revised 2019) Thonburi University: Evaluation of Master Education Program in Educational Administration Graduate School (Revised 2019) Thonburi University. RATANABUTH JOURNAL, 6(3), 46–57. retrieved from https://so07.tci-thaijo.org/index.php/rtnb/article/view/5405
Section
Research Article

References

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. (2565). 3 ปี อว. กับความสำเร็จการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ. กรุงเทพฯ: สำนักงานปลัดกระทรวง.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). รายงานการศึกษาไทย พ.ศ. 2561 (Education in Thailand 2018).กรุงเทพฯ: บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.

จุฑามาส ศรีทองคํา. (2562). การประชุมวิชาการนําเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่ 3 “GRADUATE SCHOOL CONFERENCE 2019”. 15 พฤศจิกายน 2562 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทากรุงเทพมหานคร. กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย,มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. 69-77.

เชษฐ์ ศิริสวัสดิ์, กิตติมา พันธ์พฤกษา, และ สมศิริ สิงห์ลพ. (2564). การประเมินหลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนวิทยาศาสตร์ (ฉบับ พ.ศ.2559) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.

ณรงค์ พิมสาร, บังอร โกศลปริญญานันท์, และ พงษ์ศักดิ์ พัวพรพงษ์. (2563). บทบาทผู้บริหารสถานศึกษาที่มีต่อการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน, วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 7(2), 315-324.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

ปดิวรัดา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา และฐิตวีร์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา. (2563). การเรียนการสอนแบบ E-Learning กับการใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality) เป็นสือรูปแบบใหม่ทางด้านการศึกษา. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 14(1), 17-31.

ปิยะธิดา ปัญญา. (2562). การประเมินหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิจัยและประเมินผลการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 13(2), 179-193.

พรศักดิ์ สุจริตรักษ์, ปิยะนาถ บุญมีพิพิธ, และ ชวน ภารังกูล. (2564). การประเมินหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560) มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง, วารสารสิรินธรปริทรรศน์, 22(1). 338-349.

พัชราพร แก้วกฤษฎางค์, สุณีย์รัตน์ เนียรเจริญสุขและปิยะนุช วิริเยนะวัตร์. (2566). ความสำคัญของวิชาการฝึกงานต่อการพัฒนาทักษะทางปัญญาและทักษะทางพฤติกรรมนักศึกษาวิชาเอกภาษาญี่ปุ่น. วารสารศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 23(3), 288-309.

สืบพงษ์ ปราบใหญ่, รุ่งรัตนา เจริญจิตต์และยศระวี วายทองคำ. (2019). แนวทางการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในศตวรรษที่21. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(10), 5324-5343.

สุดารัตน์ อมรชาติ. (2564). การประเมินหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของโรงเรียนบ้านหินดาน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้รูปแบบซิปเปี้ยสท์. ปริญญานิพนธ์มหาบัณฑิต, สุราษฎร์ธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี.

สุรยศ ทรัพย์ประกอบ, เจนศึก โพธิศาสตร์และประธาน ประจวบโชค. (2564). ลักษณะเด่นสำคัญของรูปแบบการเป็นพี่เลี้ยงและให้คำปรึกษาที่ส่งเสริมสมรรถนะด้านการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนวิทยาศาสตร์สำหรับนักศึกษาครู. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, 18(1), 33-42.

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง). กรุงเทพฯ: สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.

อังศินันท์ อินทรกำแหง, ฉัตรชัย เอกปัญญาสกุล, วิชุดา กิจธรธรรม, สิทธิพงศ์ วัฒนานนท์สกุล, อรัญ วานิชกร, ศรัณย์ พิมพ์ทอง, และพิชชาดา สุทธิแป้น. (2561). ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีต่อการพัฒนาหัวข้อวิจัย และการเผยแพร่ผลงานวิจัยของอาจารย์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยส่งผ่านคุณลักษณะที่ดีของการเป็นนักวิจัยพี่เลี้ยง. วารสารพฤติกรรมศาสตร์เพื่อการพัฒนา, 10(1), 42-62.

Stufflebeam, D. L., & Zhang, G. (2017). The CIPP evaluation model: How to evaluate for improvement and accountability. New York: The Guilford Press.