ความสัมพันธ์ระหว่างทักษะภาวะผู้นำด้านอารมณ์และสังคมของผู้บริหารสถานศึกษากับการทำงานเป็นทีมของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ The Relationship Between Soft Skills Leadership of School Administrators and Teachers’ Teamwork Under the Secondary Educational Service Area Office Buriram
Main Article Content
บทคัดย่อ
ทักษะภาวะผู้นำด้านอารมณ์และสังคมของผู้บริหารสถานศึกษาเป็นทักษะที่ความสำคัญสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา เพราะความสามารถในด้านนี้จะช่วยผู้บริหารสถานศึกษาเชื่อมโยงและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างสัมพันธภาพที่ดีในการทำงานเป็นทีมของครูได้อย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพทักษะภาวะผู้นำด้านอารมณ์และสังคมของผู้บริหารสถานศึกษา 2) ศึกษาสภาพการทำงานเป็นทีมของครู 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำด้านอารมณ์และสังคมของผู้บริหารสถานศึกษากับการทำงานเป็นทีมของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ กลุ่มตัวอย่างเป็นครู จำนวน 341 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครจซี่และมอร์แกน และทำการสุ่มแบบชั้นภูมิตามขนาดของโรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสำรวจรายการและแบบมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐาน โดยการทดสอบค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า 1) ความคิดเห็นของครู เกี่ยวกับสภาพทักษะภาวะผู้นำด้านอารมณ์และสังคมของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ โดยรวมอยู่ระดับมาก ( = 4.25, S.D. = 0.64) 2) ความคิดเห็นของครู เกี่ยวกับสภาพการทำงานเป็นทีมของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ โดยรวมอยู่ระดับมาก (
= 4.41, S.D. = 0.46) 3) ความสัมพันธ์ระหว่างทักษะภาวะผู้นำด้านอารมณ์และสังคมของผู้บริหารสถานศึกษากับการทำงานเป็นทีมของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ พบว่า โดยรวมความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และเป็นความสัมพันธ์ในระดับมาก เป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัย เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทักษะภาวะผู้นำด้านอารมณ์และสังคมของผู้บริหารสถานศึกษากับการทำงานเป็นทีมของครู ด้านการทำงานร่วมกับผู้อื่น มีความสัมพันธ์กันมากที่สุด และที่มีความสัมพันธ์น้อยที่สุด คือ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
จิรนันท์ ขุนทอง. (2564). ความสัมพันธ์ระหว่างทักษะมนุษยสัมพันธ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับการทำงานเป็นทีมของครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว. การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต, นนทบุรี:มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ณิรดา เวชญาลักษณ์. (2560). ภาวะผู้นำทางการบริหาร, กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทรงศักดิ์ ภูสีอ่อน. (2561). การวิจัยและพัฒนาทางการศึกษา, มหาสารคาม: โรงพิมพ์ตักสิลาการพิมพ์.
วัฒนาพร ระงับทุกข์.(2563). สมรรถนะเด็กไทยในยุึโลกพลิกผัน (VUCA World). คุรุสภาวิทยาจารย์. 1(1), 8.
นพวรรณ คงพลิ้ว. (2563). บทบาทการทำงานเป็นทีมของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต. จันทบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). หลักการวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9, กรุงเทพฯ: สุวิริยาสาส์น.
ไพฑูรย์ กลมกูล. (2560). ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับการทำงานเป็นทีมของครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, บุรีรัมย์ : มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิธีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์.กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์เจริญการพิมพ์.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์. (2567). แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2567-2570 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์. บุรีรัมย์: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579, กรุงเทพฯ : พริกหวานกราฟฟิค.
Brown, E., & Green, M. (2018). The impact of principals' soft skills on school climate. International Journal of School Leadership, 12(2), 145-162.
Krejcie, R.V., & D.W.Morgan. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement. 30(3), 607-610.
Robles, M. M. (2012). Executive perceptions of the top 10 soft skills needed in today's workplace. Business Communication Quarterly, 75(4), 453-465.