การพัฒนาดิจิทัลแพลทฟอร์มด้านสุขภาพสำหรับดูแลผู้สูงอายุเพื่อรองรับสถานการณ์ดูแลผู้สูงวัยในอนาคต Development of Digital Platform for Elderly Care to Support the Elderly Health Care Situation in the Future
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาดิจิทัลแพลทฟอร์มด้านสุขภาพสำหรับดูแลผู้สูงอายุเพื่อรองรับสถานการณ์ดูแลผู้สูงวัยในอนาคต 2) เพื่อประเมินผลการใช้ดิจิทัลแพลทฟอร์มแอพพลิเคชั่นในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มได้แก่ 1) การประเมินประสิทธิภาพของดิจิทัลแพลทฟอร์มด้านสุขภาพสำหรับดูแลผู้สูงอายุเพื่อรองรับสถานการณ์ดูแลผู้สูงวัยในอนาคต โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบการผลิตดิจิทัลแพลทฟอร์มแอพพลิเคชั่น และผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา จำนวน 3 ท่าน 2) การประเมินผลการใช้ดิจิทัลแพลทฟอร์มแอพพลิเคชั่นในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ จำนวน 60 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย ดิจิทัลแพลทฟอร์มแอพพลิเคชั่นในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ แบบประเมินประสิทธิภาพ และแบบประเมินความพึงพอใจในการใช้ดิจิทัลแพลทฟอร์มแอพพลิเคชั่นในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ สถิติที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า 1) ดิจิทัลแพลทฟอร์มแอพพลิเคชั่นในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุเพื่อรองรับสถานการณ์ดูแลผู้สูงวัยในอนาคตนั้น สามารถนำไปใช้งานกับผู้สูงอายุได้จริง 2) ประสิทธิภาพของดิจิทัลแพลทฟอร์มแอพพลิเคชั่นในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ผลการประเมินอยู่ในระดับ มาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.45 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.56 และ 3) ความพึงพอใจในการใช้ดิจิทัลแพลทฟอร์มแอพพลิเคชั่นในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.49 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.51 พบว่าดิจิทัลแพลทฟอร์มแอพพลิเคชั่นนี้ทำให้เข้าใจ ง่าย ตรงประเด็น ไม่ซับซ้อน และเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้มีความความคิดและเข้าใจในเรื่องราวของความจริง และควรพัฒนาการแอพพลิเคชันกับระบบอื่นๆ เช่น การส่งข้อมูลแชร์ผ่านแพลทฟอร์มแอพพลิเคชั่นไลน์ อีเมล์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าสาธารณสุข แพทย์ผู้ดูแลได้ทราบข้อมูลสุขภาพของผู้สูงอายุ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กัลยา วาณิชย์ปัญญา.(2546). การวิเคราะห์สถิติ สถิติสำหรับการบริหารและการวิจัย.ภาควิชาสถิติคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
กรมกิจการผู้สูงอายุ.(2560). สถิติผู้สองอายุ. ค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2561, จาก: http://www.dop.go.th/th/know/1.
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข.(2557).ประกาศนโยบายและแนวปฎิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ด้านสารสนเทศ. กระทรวงสาธารณสุข.
กีรติ กิจธีระวุฒิวงษ์ และ นินทรา กิจธีระวุฒิวงษ์. (2561). ทิศทางของการพัฒนาผู้ดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในชุมชน. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 36(4),15-24.
เชิดศักดิ์ เจริญชัย, สุรศักดิ์ แว่นรัมย์, ณัฎฐ์ ดิษเจริญ. (2561). การพัฒนาเว็ปแอพพลิเคชันเพื่อจำแนกผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูก. วารสารวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ศึกษา(JSSE), 1(1), 27 – 37.
ถนอมรัตน์ ประสิทธิเมตต์ และ เพชรา ชวนะพันธุ์. (2559). ประสิทธิผลของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในเขตสุขภาพที่ 4. สระบุรี: ศูนย์อนามัยที่ 2 จังหวัดสระบุรี.
ไพลิน มูลจันทร์. (2564). การพัฒนาเว็บแอพพลิเคชันสำหรับเผ้าระวังการติดเชื้อตำแหน่งผ่าตัดหลังจำหน่าย. พยาบาลสาร, 48(2), 37 – 50.
Best, J.W. (1977). Research in Education. 3rd. New Jersey: Prentice Hall Inc.
Bodenheimer T, Wagner E, Grumbach K. (2002). Improving primary care for patients with chronic illness: the chronic care model. JAMA. 2002; 288:1775-1779.
Indepthdev. (2020). Building Web, Desktop and Mobile apps from a single codebase using Angular. Retrieved 21 May 2020, from: https://indepth.dev/posts/1420/building-multi-platform-apps-from-a-single- codebase-using-angular.
Robinson, V. (2007). The Impact of Leadership on Student Outcomes: Making Sense of the Evidence, from: http://research.acer.edu.au/research_conference_2007/5/
Martinez-Pere, B., Tone-Diez, I., and Lopez-Coronado, M. (2015). Privacy and security in mobile health apps: A review and recommendations. Journal of Medical Systems, 39(1), 181.