ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารเช้าของนักศึกษาปริญญาตรี ด้านบริหารธุรกิจ ในจังหวัดที่มีนโยบายการท่องเที่ยวเมืองรอง ของประเทศไทย

บทคัดย่อ

การรับประทานอาหารเช้าของผู้ใหญ่ตอนต้นมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งมีตัวเลขผู้งดอาหารเช้าจำนวนมากอยู่ในช่วงอายุ 15 – 24 ปี (Health Data, 2018) การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารเช้าของนักศึกษาปริญญาตรี ด้านบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินนโยบายการท่องเที่ยวเมืองรองของประเทศไทย นับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา นครศรีธรรมราชเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้านการเกษตร และวัฒนธรรมท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ภูมิภาคนี้จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าท้ายต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารของนักศึกษา การออกแบบการวิจัยเชิงพรรณนาถูกนำมาใช้และทำการเก็บรวบรวมข้อมูลในปี 2563 โดยใช้แบบสอบถามที่มีโครงสร้างจากนักศึกษาและการวิเคราะห์เชิงวิชาการ ผลการศึกษาบ่งชี้ว่าพฤติกรรมส่วนบุคคล โดยเฉพาะรูปแบบการนอนและการตื่น ส่งผลต่อการรับประทานอาหารเช้าอย่างมีนัยสำคัญ แม้นักศึกษาจะตระหนักถึงประโยชน์ทางโภชนาการของอาหารเช้า แต่บ่อยครั้งที่นักศึกษาให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย เนื่องจากรูปแบบการดำเนินชีวิตและความท้าทายในการจัดการเวลา โดยมักจะเลือกรับประทานอาหารแบบพร้อมรับประทาน หรืออาหารจานด่วน หรือไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า ในทางกลับกันนักศึกษาที่บริหารเวลาได้ดี มักจะรับประทานอาหารท้องถิ่นแบบดั้งเดิมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากนี้ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสภาพอากาศและการเข้าถึงอาหาร พบว่ามีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารเช้า ในขณะที่ปัญหาทางเศรษฐกิจและจำนวนงานที่ได้รับมอบหมายมีผลต่อการพฤติกรรมการรับประทานอาหารเช้าเพียงเล็กน้อย ซึ่งตรงกันข้ามกับภูมิภาคอื่น ๆ

งานวิจัยนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ เกี่ยวกับความเข้าใจในการรับประทานอาหารเช้าในบริบททางสังคม วัฒนธรรม และภูมิศาสตร์ของพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรอง เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแทรกแซงแบบบูรณาการในระดับมหาวิทยาลัย เช่น การศึกษาเรื่องการบริหารเวลา โปรแกรมการเข้าถึงอาหารเพื่อสุขภาพ และการรณรงค์ส่งเสริมสุขภาพที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนข้อ 3 ในประเด็นการมีสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดี ในขณะที่การศึกษาได้ดำเนินการก่อนการระบาดใหญ่ของโควิด 19 ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ดังนั้นการวิจัยในอนาคตควรตรวจสอบผลกระทบในระยะยาวของการระบาดต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การสำรวจพฤติกรรมเฉพาะเพศ ผลลัพธ์ด้านสุขภาพในระยะยาว และบทบาทของระบบสนับสนุนของสถาบัน