ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการเปิดรับสื่อดิจิทัลกับการใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิทัลของประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเปิดรับสื่อดิจิทัล ศึกษาพฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิทัล และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเปิดรับสื่อดิจิทัลกับการใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิทัลของประชาชนทั่วไป ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ การวิจัยนี้ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงสำรวจโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่างคัดเลือกด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน จำนวน 400 คน จากประชากรในจังหวัดเชียงใหม่ แบ่งเป็นกลุ่มอายุ 20-24 ปี อายุ 25-59 ปี และอายุ 60 ปีขึ้นไป สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์
ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการเปิดรับสื่อดิจิทัลในชีวิตประจำวันทุกวัน คิดเป็นร้อยละ 86.50 โดยมีระยะเวลาในการเปิดรับสื่อดิจิทัลมากกว่า 5 ชั่วโมงต่อวันมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 40.50 กลุ่มตัวอย่างมีการใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิทัลโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.95 และ S.D. = 0.74) โดยกลุ่มตัวอย่างใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิทัลเพื่อความบันเทิงมากที่สุด และผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการเปิดรับสื่อดิจิทัลกับการใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิทัล พบว่า มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำ (r = 0.228) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาการจัดการและการบัญชี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์
บทความที่ลงตีพิมพ์ใน วารสารวิทยาการจัดการและการบัญชี มหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ ถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน คณะบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ผู้เขียนที่ตีพิมพ์ ยอมรับเงื่อนไขต่อไปนี้:
- ผู้เขียนรักษาลิขสิทธิ์และให้สิทธิ์วารสารในการตีพิมพ์ครั้งแรกพร้อมกับผลงานที่ได้รับใบอนุญาตพร้อมกันภายใต้ Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) ที่อนุญาตให้ผู้อื่นแบ่งปันผลงานโดยรับทราบถึงผลงานของผู้เขียนและ การตีพิมพ์ครั้งแรกในวารสารนี้
- ผู้เขียนสามารถทำข้อตกลงเพิ่มเติมตามสัญญาแยกต่างหากสำหรับการเผยแพร่ผลงานฉบับตีพิมพ์ของวารสารแบบไม่ผูกขาด (เช่น โพสต์ลงในพื้นที่เก็บข้อมูลของสถาบันหรือตีพิมพ์ในหนังสือ) โดยรับทราบการตีพิมพ์ครั้งแรก ในวารสารนี้
- ผู้เขียนได้รับอนุญาตและสนับสนุนให้โพสต์ผลงานของตนทางออนไลน์ (เช่น ในคลังข้อมูลของสถาบันหรือบนเว็บไซต์) ก่อนและระหว่างขั้นตอนการส่งผลงาน เนื่องจากอาจนำไปสู่การแลกเปลี่ยนที่มีประสิทธิผล ตลอดจนการอ้างอิงงานที่ตีพิมพ์เร็วขึ้นและมากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
ฐิตินัน บุญภาพ คอมมอน. (2556). บทบาทของสื่อใหม่ในการสร้างค่านิยมทางสังคมและอัตลักษณ์ของเยาวชนไทยในเขตกรุงเทพมหานคร. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
พงศกร โค้วไพโรจน์. (2562). การเปิดรับ ความเชื่อมั่น และการใช้ประโยชน์ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อดิจิทัลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. https://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2019.261
ศุภณิช จันทร์สอง. (2565). พฤติกรรมการเปิดรับสื่อที่ส่งผลต่อการใช้ประโยชน์ทวิตเตอร์ของกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่. ภาควิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
สราลี พุ่มกุมาร. (2562). การใช้สื่อใหม่เพื่อนันทนาการด้านกีฬาฟุตบอลกับการรับรู้สภาวะความสัมพันธ์ทางสังคมและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ: กรณีศึกษาแฟนบอลสโมสรชลบุรีเอฟซี [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
สำนักบริหารทะเบียน กรมการปกครอง. (2567). จำนวนประชากรจังหวัดเชียงใหม่. https://stat.bora.dopa.go.th/stat/statnew/statMONTH/statmonth/#/mainpage
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์. (2565). รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2565. สำนักงาน. https://shorturl.asia/rnkCj
สุธีรา คงอยู่ และปริยา รินรัตนากร. (2560). พฤติกรรมการใช้ ความพึงพอใจและการใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิทัลของชาวภูไท. วารสารช่อพะยอม, 28(1), 231-236. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/ejchophayom/article/view/88924
สุภาวดี อินนุพัฒน์. (2552). การเปิดรับข่าวสาร การรับรู้ และการมีส่วนร่วมในโครงการประหยัดไฟฟ้ากำไร 2 ต่อ ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
อภิญญา แก้วเปรมกุศล. (2562). การเปิดรับสื่อ การรับรู้ ทัศนคติ และการใช้ประโยชน์จากหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของเยาวชนในเขตกรุงเทพมหานคร [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
Buawangpong, N., Sirikul, W., Anukhro, C., Seesen, M., La-up, A., & Siviroj, P. (2022). Health information sources influencing health literacy in different social contexts across age groups in Northern Thailand citizens. International Journal of Environmental Research and Public Health, 19(10), 6051. https://doi.org/10.3390/ijerph19106051
Diteeyont, W., & Ku, H.-Y. (2021). Internet literacy among the elderly in Thailand. Educational Media International, 58(1), 1-13. https://doi.org/10.1080/09523987.2021.1976829
Hair, J. F., Anderson, R. E., Tatham, R. L., & Black, W. C. (1998). Multivariate data analysis (5thed.). Prentice Hall.
Katz, E., Blumler, J. G., & Gurevitch, M. (1973). Uses and gratifications research. The Public Opinion Quarterly, 37(4), 509–523. https://doi.org/10.1086/268109
Klapper, J. T. (1960). The effects of mass communication. Free Press.
Livingstone, S., & Helsper, E. J. (2007). Gradations in digital inclusion: Children, young people and the digital divide. New Media & Society, 9(4), 671–696. https://doi.org/10.1177/1461444807080335
McQuail, D. (2010). McQuail's mass communication theory (6th ed.). Sage Publications.
Nimrod, G. (2020). Aging well in the digital age: Technology in processes of selective optimization with compensation. The Journals of Gerontology: Series B, 75(9), 2008–2017. https://doi.org/10.1093/geronb/gbaa049
Oxford University Press. (2020). A dictionary of media and communication. Oxford University Press.
Pennycook, G., & Rand, D. G. (2018). The Implied Truth Effect: Attaching Warnings to a Subset of Fake News Stories Increases Perceived Accuracy of Stories Without Warnings. Management Science, 66(11), 4944–4957. https://doi.org/10.1287/mnsc.2019.3478
Pew Research Center. (2022). Older adults and technology use. https://shorturl.asia/XjqML
Van Deursen, A. J. A. M., & Helsper, E. J. (2018). Collateral benefits of Internet use: Explaining the diverse outcomes of engaging with the Internet. New Media & Society, 20(7), 2333–2351. https://doi.org/10.1177/1461444817715282
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis (3rd ed.). Harper and Row.