รูปแบบการจัดการห่วงโซ่คุณค่าสมุนไพรพื้นบ้านบนฐานทุนทรัพยากร บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา จังหวัดสุรินทร์
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการจัดการห่วงโซ่คุณค่าสมุนไพรพื้นบ้านบนฐานทุนทรัพยากรบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา จังหวัดสุรินทร์ เก็บรวบรวมจากผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรเป้าหมายในการพัฒนาของจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 29 คน โดยการสัมภาษณ์ และการประชุมกลุ่มย่อย วิเคราะห์ข้อมูลโดยเชื่อมโยงหาความสัมพันธ์ และวิเคราะห์เชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการจัดการห่วงโซ่คุณค่าสมุนไพรพื้นบ้านมีความสัมพันธ์กันคล้ายลูกโซ่แบบต่อเนื่อง แต่ละกิจกรรมมีส่วนในการก่อให้เกิดคุณค่าเพิ่มเป็นช่วง ๆ ตั้งแต่การนำวัตถุดิบเข้าสู่กิจกรรมการผลิตจนได้เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่จำหน่ายไปยังผู้บริโภคคนสุดท้ายในราคาที่ลูกค้ายอมจ่ายให้ผลิตภัณฑ์นั้น ห่วงโซ่คุณค่าดังกล่าวประกอบด้วยกิจกรรมหลัก และกิจกรรมสนับสนุน ห่วงโซ่คุณค่าสมุนไพรพื้นบ้านสามารถจำแนกออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1) ระยะต้นน้ำ ประกอบด้วย ผู้จำหน่ายปัจจัยการผลิต และเกษตรกรผู้เพาะปลูกสมุนไพร ซึ่งอาจดำเนินการในรูปแบบรายบุคคลหรือรวมกลุ่มกัน ทั้งในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ และการรวมกลุ่มอย่างเป็นทางการ 2) ระยะกลางน้ำ ได้แก่ ผู้รวบรวมสมุนไพร ซึ่งทำหน้าที่เพิ่มมูลค่าให้กับสมุนไพร เช่น การแปรรูปเบื้องต้นหรือการทำให้แห้ง ก่อนจำหน่ายต่อให้กับโรงพยาบาลหรือผู้บริโภคภายนอก และ 3) ระยะปลายน้ำ หมายถึง ตัวแทนรับซื้อซึ่งทำหน้าที่จำหน่ายสมุนไพรให้กับผู้ประกอบการและผู้ค้าส่ง ก่อนจะส่งต่อไปยังผู้ค้าปลีกและผู้บริโภคในลำดับสุดท้าย ทั้งนี้ การถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับห่วงโซ่คุณค่าประเด็นสมุนไพรพื้นบ้านทำให้เกิดรูปแบบการจัดการห่วงโซ่คุณค่าสมุนไพรพื้นบ้านบนฐานทุนทรัพยากรเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและความสามารถทางการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมในพื้นที่
Downloads
Article Details
รูปแบบการอ้างอิง
ประเภทบทความ
บทความวิจัย
Copyright & License
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารศิลปะและวัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำมูล

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่องที่ตีพิมพ์ในรูปแบบ เปิดให้เข้าถึง (Open Access) ภายใต้สัญญาอนุญาต CC BY-NC-ND 4.0 จะสามารถเข้าถึงได้ฟรีทันทีและอย่างถาวรสำหรับทุกคน โดยผู้อ่านสามารถอ่าน ดาวน์โหลด ทำสำเนา แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือเชื่อมโยงไปยังบทความได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การใช้งานอนุญาตเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่แสวงหากำไร (ไม่อนุญาตการใช้เพื่อการค้า) และต้องไม่ทำการดัดแปลงแก้ไขผลงาน (ไม่อนุญาตการดัดแปลง) การเข้าถึงไม่จำเป็นต้องขออนุญาตล่วงหน้าจากสำนักพิมพ์หรือผู้แต่ง ทั้งนี้ต้องมีการอ้างอิงถึงแหล่งตีพิมพ์ต้นฉบับอย่างถูกต้องและเหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข และองค์กรภาครัฐ – เอกชน. (2559). แผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2560 - 2564). กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกระทรวงสาธารณสุข.
คณะอนุกรรมการวัตถุดิบสมุนไพร. (2563). การประชุมคณะอนุกรรมการวัตถุดิบสมุนไพร ครั้งที่ 2/ 2563. https://www.opsmoac.go.th/sustainable_agri-knowledge-files-431291791806.
ชนม์ณัฐชา กังวานศุภพันธ์, อุบลวรรณ สุวรรณภูสิทธิ์, นิศานาถ แกววินัด, และ สุนิสา เยาวสกุลมาศ. (2567). การยกระดับนวัตกรรมการพัฒนาคลัสเตอร์สมุนไพรพื้นบ้านสู่เศรษฐกิจสร้างสรรคบนฐานทุนทรัพยากร บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา. รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์.
น้ำทิพย์ ไต่เต้า และ อดิลล่า พงศ์ยี่หล้า. (2565). ความสำเร็จของผู้ประกอบการธุรกิจสมุนไพรไทย ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 10(6), 2411 - 2422.
พฤฒิยาพร มณีรัตน์ และ เกิดศิริ เจริญวิศาล. (2565). โมเดลห่วงโซ่คุณค่าในการสร้างมูลค่าวัตถุดิบท้องถิ่นสู่กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอาหารในจังหวัดภูเก็ต. วารสารสหวิทยาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 5(3), 813 – 825.
สำนักข่าว Hfocus เจาะลึกระบบสุขภาพ. (2565). คกก.สมุนไพรแห่งชาติ เผยผลงาน 6 ปี ไทยส่งออกวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพร สร้างมูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านบาท. https://www.hfocus.org/content/2022/08/25758.
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2563). สรุปผลการตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 รอบที่ 2. https://dmsic.moph.go.th/index/detail/8324.
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี. (2564). รายงานผลการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขตตรวจราชการที่ 13 จังหวัดสุรินทร์ การพัฒนาเมืองสมุนไพร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564. https://pmi.opm.go.th/inspect_main/uploadfiles/8%20รายงานเมืองสมุนไพร%20v1.pdf.
Denzin, N. K., & Lincoln, Y. S. (2018). The SAGE Handbook of Qualitative Research (5th ed.). SAGE Publications.
Frederick, S. (2014). Combining the Global Value Chain and Global I-O Approaches Discussion Paper. https://unstats.un.org/unsd/trade/events/2014/mexico/Combining%20the%20Global%20Value%20Chain%20and%20global%20I-O%20approaches%20-%20Stacey%20Frederick%20-%2018%20Sep%202014.pdf.
Frederick, S. E. (2010). Development and Application of a Value Chain Research Approach to Understand and Evaluate Internal and External Factors and Relationships Affecting the Economic Competitiveness in the Textile Value Chain [Doctoral dissertation, North Carolina State University]. North Carolina State University Libraries. http://www.lib.ncsu.edu/resolver/1840.16/6190.
Kumar, D., & Rajeev, P. V. (2016). Value Chain : A Conceptual Framework. International Journal of Engineering and Management Sciences, 7(1), 74 - 77.
Porter, M. E. (2008). The Five Competitive Forces that Shape Strategy. Harvard Business Review, 86(1), 78 - 93.
Porter, M. E. (1985). Technology and Competitive Advantage. Journal of Business Strategy, 5(3), 60 - 78.
Porter, M. E. (1998). Competitive Advantage : Creating and Sustaining Superior Performance. Free Press.
Teece, D. J. (2018). Business models and dynamic capabilities. Long Range Planning, 51(1), 40 - 49. https://doi.org/10.1016/j.lrp.2017.06.007.