ปรัชญาแห่งความสุขที่มีอิทธิพลต่อการสร้างอัตลักษณ์

บทคัดย่อ

บทความนี้นำเสนอมุมมองปรัชญาแห่งความสุขจากนักปราชญ์ในยุคบรรพกาลอย่างโสเครตีส (Socrates) ผู้ให้นิยามคำว่า ยูไดโมเนีย (Eudaimonia) ซึ่งแสดงถึงสภาวะที่เป็นมากกว่าความเบิกบานใจ ในขณะที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ 
(Albert Einstein): ค้นพบทฤษฎีแห่งความสุข (Einstein’s Theory of Happiness) ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตซึ่งทฤษฎีเน้นไปที่การทำชีวิตให้สงบและเรียบง่ายเป็นความสุขที่แท้จริงและยั่นยืนยาวนาน มุมมองของ มาร์ติน เซลิกแมน นักจิตวิทยาเชิงบวก ผู้คิดค้นทฤษฎีแห่งความสุข (PERMA) ประกอบด้วย Positive Emotion: เพิ่มอารมณ์เชิงบวก Engagement: ดำดิ่ง ไหลลื่นในสิ่งที่ทำ Relationships: เอาใจใส่ต่อมิตรภาพ Meaning: ความหมายของการมีชีวิตอยู่ และสุดท้ายAccomplishment: การบรรลุถึงเป้าหมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต่างสะท้อนแง่มุมของปรัชญาความสุขของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย (Scandinavia) อย่างปรัชญาฮุกกะ (Hygge) ฉบับเดนมาร์ก คือการอยู่อย่างเป็นสุขเน้นไปที่ศิลปะในสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนในสังคม ลำดับต่อมาคือ ปรัชญา​ลากอม (Lagom) ความพอดีนั้นดีที่สุด สุดท้ายปรัชญาซิสุ (Sisu) การมีจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ แข็งแกร่ง และความมานะอุตสาหะ ​เชื่อมโยงถึงแก่นระดับการแบ่งช่วงวัย คือ เจเนอเรชัน การเลือกตามรสนิยมและพฤติกรรมที่บ่งบอกตัวตนที่ชัดเจนให้สมกับความยิ่งใหญ่สำหรับประวัติศาสตร์ของความสุข รวมไปถึงเป็นแนวทางการค้นหาปรัชญาความสุขของภูมิภาคเอเชีย เช่น ปรัชญาอิคิไก คินสึงึ อิจิโกะ อิจิเอะ วาบิซาบิ และโคดาวาริ ซึ่งมีการนำปรัชญาดังกล่าวมาสร้างอัตลักษณ์สินค้าที่มีความสำคัญ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าชาติตะวันตก มีการประยุกต์ใช้สร้างอัตลักษณ์ด้านงานสร้างสรรค์ทางการออกแบบให้เป็นที่จดจำกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน

(Albert Einstein): ค้นพบทฤษฎีแห่งความสุข (Einstein’s Theory of Happiness) ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตซึ่งทฤษฎีเน้นไปที่การทำชีวิตให้สงบและเรียบง่ายเป็นความสุขที่แท้จริงและยั่นยืนยาวนาน มุมมองของ มาร์ติน เซลิกแมน นักจิตวิทยาเชิงบวก ผู้คิดค้นทฤษฎีแห่งความสุข (PERMA) ประกอบด้วย Positive Emotion: เพิ่มอารมณ์เชิงบวก Engagement: ดำดิ่ง ไหลลื่นในสิ่งที่ทำ Relationships: เอาใจใส่ต่อมิตรภาพ Meaning: ความหมายของการมีชีวิตอยู่ และสุดท้ายAccomplishment: การบรรลุถึงเป้าหมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต่างสะท้อนแง่มุมของปรัชญาความสุขของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย (Scandinavia) อย่างปรัชญาฮุกกะ (Hygge) ฉบับเดนมาร์ก คือการอยู่อย่างเป็นสุขเน้นไปที่ศิลปะในสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนในสังคม ลำดับต่อมาคือ ปรัชญา​ลากอม (Lagom)  ความพอดีนั้นดีที่สุด สุดท้ายปรัชญาซิสุ การมีจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ แข็งแกร่ง และความมานะอุตสาหะ ​เชื่อมโยงถึงแก่นระดับการแบ่งช่วงวัย คือ เจเนอเรชัน การเลือกตามรสนิยมกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมที่บ่งบอกตัวตนที่ชัดเจน หรือจนกระทั่งปัจจุบันขณะนี้ตอนนี้เป็นวิถีแต่ละบุคคลต้องตัดสินใจใช้ชีวิตให้สมกับความยิ่งใหญ่สำหรับประวัติศาสตร์ของความสุข รวมไปถึงเป็นแนวทางการค้นหาปรัชญาความสุขของภูมิภาคเอเชียแถวตะวันออก เช่น ปรัญชาอิคิไก คินสึงึ อิจิโกะ อิจิเอะ วาบิซาบิ และโคดาวาริ เพื่อสามารถนำไปประยุกต์ในการสร้างอัตลักษณ์การออกแบบทางงานสร้างสรรค์ต่อไปได้