การพัฒนาคู่มือการเบิกเงินค่าใช้จ่ายในการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการภายนอกมหาวิทยาลัย ของบุคลากรคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาคู่มือการเบิกค่าใช้จ่ายในการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการภายนอกมหาวิทยาลัย ของบุคลากรคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และ 2) ความพึงพอใจของบุคลากรคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ หรือผู้ใช้คู่มือการเบิกค่าใช้จ่ายในการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการภายนอกมหาวิทยาลัย กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จำนวน 80 คน ใช้วิธีคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง

ผลการวิจัยพบว่า

1. การสรุปการรับ-ส่งคืนฎีกาการเบิกค่าใช้จ่ายในการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการภายนอกมหาวิทยาลัย พบว่า โครงการที่จัดทำขึ้นก่อนการทดสอบการใช้คู่มือ มีข้อแก้ไขในเรื่องใบสำคัญ รับเงินวิทยากรไม่ได้ลงนามผู้จ่ายเงินเนื่องจากเป็นการยืมเงินทดรองจ่าย ใบเสร็จอาหารกลางวัน ไม่ลงวันที่ ไม่ลงเลขที่ เล่มที่ และไม่มีเลขผู้เสียภาษี เอกสารวิทยากรระบุยอดเงินไม่ตรงกับชั่วโมงการอบรม บิล/ใบเสร็จ ค่าเช่าห้องประชุมไม่ระบุรายละเอียดการเข้าประชุมวันและเวลาการเข้าประชุม และบิลค่าเช่ารถโดยสารต้องใช้ใบบิลเงินสด ไม่ใช่ใบส่งของ และโครงการที่จัดทำขึ้นหลังการทดสอบการใช้คู่มือไม่มีข้อแก้ไข

2. การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศหญิงมากที่สุดเป็นลำดับแรก คิดเป็นร้อยละ 68.75 รองลงมา คือ เพศชายร้อยละ 31.25 มีระยะเวลาที่ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมในช่วง 11-15 ปี มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 40.0 รองลงมาอยู่ในช่วง 16–20 ปี คิดเป็นร้อยละ 31.25 และ 6–10 ปี คิดเป็นร้อยละ 18.75 วุฒิการศึกษาสูงสุด พบว่า มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท  มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 57.50 รองลงมาคือ วุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอก คิดเป็นร้อยละ 42.50 ประเภทข้าราชการ/พนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ และพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยสายวิชาการ มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 97.50 รองลงมาคือ ข้าราชการ คิดเป็นร้อยละ 2.50 และผู้ตอบแบบสอบถาม สังกัดสาขาวิชาสังคมศึกษา (ค.บ.) มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ12.50 รองลงมาคือ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ (ค.บ.) คิดเป็นร้อยละ 10.00 และสาขาวิชานิติศาสตร์ (น.บ.) คิดเป็นร้อยละ 8.75 และการรับรู้การเบิกเงินค่าใช้จ่ายในการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการภายนอกมหาวิทยาลัยโดยรวมอยู่ในระดับมาก การรับรู้การเบิกจ่ายค่าสมนาคุณวิทยากรโดยรวมอยู่ในระดับมาก รองลงมาคือ การรับรู้การเบิกจ่ายค่าอาหารโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง การรับรู้การเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง และการจัดอบรมรูปแบบออนไลน์โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง