กระบวนการทางสังคมสงเคราะห์กับการปฏิบัติงานของ นักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์กับผู้ป่วยเร่ร่อนที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้
คำสำคัญ:
ผู้ป่วยเร่ร่อนที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ , นักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์, กระบวนการทางสังคมสงเคราะห์บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ ทักษะและทัศนคติ กระบวนการค้นหาตัวตนของนักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์กับผู้ป่วยเร่ร่อนที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้และแนวทางการค้นหาตัวตนของผู้ป่วยเร่ร่อนที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยดำเนินการวิจัยด้วยวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพโดยใช้แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างในการสัมภาษณ์นักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลและปฏิบัติงานเกี่ยวข้องหรือมีประสบการณ์กับกลุ่มผู้ป่วยเร่ร่อนที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ ในโรงพยาบาล 8 แห่ง จำนวน 11 ราย ผลการศึกษาพบว่ากระบวนการปฏิบัติงานของนักสังคมสงเคราะห์กับผู้ป่วยเร่ร่อนที่สามารถระบุตัวตนได้ จำแนกออกเป็น 3 ระยะคือ ระยะที่ผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา ระยะเตรียมจำหน่าย และระยะติดตามและประเมินผลโดยในแต่ระยะจะจำแนกกระบวนการปฏิบัติงานเอาไว้เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของนักสังคมสงเคราะห์ในการปฏิบัติงาน และการติดตามสถานะ และตัวตนของผู้ป่วยเร่ร่อนที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ ข้อเสนอแนะในการศึกษา พบว่า ในการปฏิบัติงานควรมีการจัดทำคู่มือการปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยเร่ร่อนที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และส่งเสริมการทำงานสหวิชาชีพในการปฏิบัติงานเพื่อร่วมกันหาแนวทางและกำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมกัน รวมทั้งส่งเสริมให้การปฏิบัติงานของนักสังคมสงเคราะห์ในการทำงานเชิงรุกหรือการทำงานเชิงพื้นที่มากยิ่งขึ้นในการลงไปติดตามและแสวงหาข้อมูลที่จำเป็น ส่วนด้านนโยบาย ควรสนับสนุนอัตรากำลังของนักสังคมสงเคราะห์ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล ให้สอดคล้องกับจำนวนเตียงผู้ป่วย ทั้งนี้เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านสังคม ได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล. (2556). แนวคิดทางกฎหมายในการพิสูจน์และพัฒนาสิทธิในสถานะบุคคลตามกฎหมาย. วิทยานิพนธ์นิติศาสตรดุษฎีนิพนธ์ สาขาวิชานิติศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
นงลักษณ์ เทพสวัสดิ์. (2555). ทฤษฎีและการปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ไพสิฐ พาณิชย์ และคณะ. (2560). โครงการศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาและสนับสนุนองค์ความรู้ทางกฎหมายเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้าน. กรุงเทพฯ: สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ.
ยุพา วงศ์ไชย. (2551). ทฤษฎีการปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์. กรุงเทพฯ: ศักดิ์โสภาการพิมพ์.
ระพีพรรณ คำหอม. (2551). การพิทักษ์สิทธิ. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
________. (2557). สวัสดิการสังคมกับสังคมไทย (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
วันทนีย์ วาสิกะสิน. (2530). นักสังคมสงเคราะห์กับงานสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์. กรุงเทพฯ: คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สมพงษ์ จิตระดับ. (2538). วัฒนธรรมเด็กเร่ร่อนในท้องถนน. กรุงเทพฯ: อักษร.
อรสา จันทร์ชุม. (2551). การรับรองสถานะบุคคลเพื่อเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานศึกษาเฉพาะกรณีคนไทยตกสำรวจที่เป็นผู้ประสบภัยสึนามิ พื้นที่ตำบลบางม่วงและตำบลคึกคัก อำเภอ
ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา. วิทยานิพนธ์สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Glumbíková, K., et al. (2018). Anti-oppressive social work as a tool to reduce barriers to access health care services for homeless people. KONTAKT, 20 (3), e292-e297.doi: 10.1016/j.kontakt.2018.09.001
Lindsey, E. W. (2010). Social work with homeless mothers: A strength-based solution-focused model. Retrieved February 10, 2023, from https://ezproxy.tulibs.net/login?url=https://search.ebscohost.com/login.aspx?direct=true&db=edsbl&AN=RN078307420&site=eds-live.
Shinn, M. (2010, December). Homelessness, poverty, and social exclusion in the United States and Europe. European Journal of Homelessness, 4.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม