กรอบแนวคิดการตรวจพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การตรวจพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบยุติธรรมทางอาญา ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบอันเกี่ยวพันทางเทคโนโลยีสารสนเทศต่ออาชญากรรมและกระบวนการสืบสวนในปัจจุบัน ลักษณะของหลักฐานดิจิทัลมีความแตกต่างจากหลักฐานรูปแบบดั้งเดิม ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะเฉพาะ ความท้าทาย และผลกระทบต่อระบบยุติธรรมทางอาญา การทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการหลักฐานดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ในการรักษาความสมบูรณ์และรับรองความน่าเชื่อถือในบริบททางกฎหมาย
บทความนี้นำเสนอกรอบแนวคิดสำหรับการทำความเข้าใจการตรวจพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลในกระบวนการทางกฎหมาย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเสนอข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับวิธีการ ความท้าทาย และผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการตรวจพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลในบริบททางกฎหมาย โดยมุ่งเน้นไปที่การรวบรวม การเก็บรักษา การวิเคราะห์และการนำเสนอหลักฐานดิจิทัลอย่างเป็นระบบ ซึ่งทำให้เห็นว่าการยอมรับหลักฐานดิจิทัลในกระบวนการทางกฎหมายนั้นอาจเต็มไปด้วยความท้าทายที่เกิดจากลักษณะเฉพาะตัว ความซับซ้อนทางเทคโนโลยี และผลกระทบทางกฎหมาย การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต้องอาศัยแนวทางปฏิบัติทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เข้มงวด มาตรฐานการตรวจพิสูจน์ที่มีความเป็นสากล และความร่วมมือจากสหวิทยาการ เพื่อสนับสนุนผลลัพธ์ที่เกิดจากการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
เหมือน สุขมาตย์. (2562). ความรับผิดทางอาญาของปัญญาประดิษฐ์. วารสารวิชาการ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 7(2), 37-49.
แลร์รี อี. แดเนียล, ลาร์ส อี. แดเนียล. (2559). การตรวจพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย: เข้าใจพยานหลักฐานดิจิทัลจากขั้นตอนหมายถึงห้องพิจารณาคดี. แปลโดย สุนีย์ สกาวรัตน์. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิเพื่ออินเทอร์เน็ตและวัฒนธรรมเมือง.
ซามูเอล กรีนการ์ด. (2560). อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง. แปลโดย ทีปกร วุฒิพิทยามงคล. กรุงเทพมหานคร: โอเพ่นเวิลต์ส พับลิชชิ่ง เฮาส์.
ณัฐนันท์ ใจซื่อ. (2564). มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการรับฟังพยานหลักฐานดิจิทัล. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 15(1), 109-121.
ถิรพิรุฬห์ ทองคำวิฑูรย์. (2559). เทคโนโลยี Internet of Things และข้อเสนอแนะในการบริหารคลื่นความถี่ในประเทศไทย. วารสารกิจการสื่อสารดิจิทัล, 1(1), 168-172.
นัทธ์ ธเนศวาณิชย์. (2555). การรับฟังและวิธีการนำสืบพยานหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ในคดีอาญา ศึกษาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550. ใน วิทยานิพนธ์. กรุงเทพมหานคร: คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
พรรณทิพย์ เต็มเจริญ. (2565). แนวทางการพิจารณาและรวบรวม พยานหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิดโดยใช้เทคโนโลยี: ระบบคลาวด์. วารสาร DSI, 14(1), 11-18.
พัฒนาพร โกวพัฒนกิจ และคณะ. (2560). แนวโน้มพฤติการณ์ในการกระทำความผิดทางอาญาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ. ใน รายงานวิจัยเสนอ สถาบันวิจัยและพัฒนารพีพัฒนศักดิ์. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานศาลยุติธรรม.
ภูมินทร์ บุตรอินทร์. (2561). กฎหมายกับปัญญาประดิษฐ์. วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 47(3), 491-511.
วิวัฒน์ มีสุวรรณ์. (2559). อินเทอร์เน็ตเพื่อสรรพสิ่ง (Internet of Things) กับการศึกษา. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม, 4(2), 83-92.
สาวตรี สุขศรี. (2563). กฎหมายว่าด้วยอาชญากรรมคอมพิวเตอร์และอาชญากรรมไซเบอร์. กรุงเทพมหานคร: โครงการตำราและเอกสารประกอบการสอน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สาวตรี สุขศรี และคณะ. (2555). อาชญากรรมคอมพิวเตอร์: ผลกระทบจากพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และนโยบายของรัฐกับสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น. กรุงเทพมหานคร: โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน.
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์. (2565). การสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2565. เข้าถึงได้จาก กระทรวงดิจิทัล ETDA: https://www.etda.or.th/th/Useful-Resource/publications/iub2022.aspx
Damshenas, M., Dehghantanha, A., and Mahmoud, R. (2014). A Survey on Digital Forensics Trends. International Journal of Cyber-Security and Digital Forensics (IJCSDF), 3(4), 209-234.
Easttom, C. and Taylor, J. (2011). Computer Crime, Investigation, and the Law,. Massachusetts: Cengage Learning PTR.
Gary C. Kessler. (2010). Judges’ Awareness, Understanding, and Application of Digital Evidence. In Ph.D. Diss. Florida: Nova Southeastern University.
Grabosky, P. N. (2001). Virtual criminality: Old wine in new bottles? Social & Legal Studies, 10(2), 243–249.
John R. Vacca. (2008). Computer Forensics: Computer Crime Scene Investigation (2nd ed.). Boston: Charles River Media.
Nina Sunde a, and Itiel E. Dror. (2019). Cognitive and human factors in digital forensics: Problems, challenges, and the way forward. Digital Investigation, 29, 101-108.
Qusay F. Hassan, Atta ur Rehman Khan, Sajjad A. Madani (Eds). (2018). Internet of Things Challenges, Advances, and Applications. New York: CRC Press.
Raymond Lutui. (2016). A multidisciplinary digital forensic investigation process model. Business Horizons, 59(6), 593-604.
Reith, M., Carr, C., and Gunsch, G. (2002). An examination of digital forensic models. International Journal of Digital Evidence, 1(3). 1-12.
Thomas J. Holt and Adam M. Bossler. (2016). Cybercrime in Progress Theory and prevention of technology-enabled offenses. New York: Routledge.
Thomas J. Holt, Adam M. Bossler, Kathryn C. Seigfried-Spellar. (2017). Cybercrime and Digital Forensics: An Introduction. New York: Routledge.
Van Buskirk, E., and Liu, V. T. . (2006). Digital evidence: challenging the presumption of reliability. Journal of Digital Forensic Practice, 1(1), 19-26.
Vassil Roussev. (2016). Digital Forensic Science: Issues, Methods, and Challenges. San Antonio: Morgan & Claypool Publishers.