ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับกฎหมายมหาชน : กรณีศึกษาการเมืองกับกฎหมาย

ผู้แต่ง

  • สุภาภรณ์ ศิวกีรัตตนะ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
  • นนทวัฒน์ เสี่ยงโชคอยู่ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
  • พรนิภา พลับพลา มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต

คำสำคัญ:

ฐศาสตร์, นิติศาสตร์, นิติภิวัฒน์

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สำรวจความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับกฎหมายมหาชน : กรณีศึกษาการเมืองกับกฎหมาย 2) ศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับกฎหมายมหาชน : กรณีศึกษาการเมืองกับกฎหมาย 3) พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับกฎหมายมหาชน : กรณีศึกษาการเมืองกับกฎหมาย เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลหลักในการสัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 20 ท่าน โดยการวิเคราะห์ข้อมูลและการจัดเตรียมฐานข้อมูลเพื่อให้สามารถนำไปใช้โดยใช้วิธีการหลากหลายเพื่อเก็บข้อมูลสำหรับผลการวิจัยในครั้งนี้ ผลการวิจัย พบว่า

  1. ในการสำรวจความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับกฎหมายมหาชน: กรณีศึกษาการเมืองกับกฎหมาย พบว่าควรที่จะมีการนำหลักนิติภิวัฒน์เพื่อให้เข้าไปจัดการปัญหารูปแบบใหม่ของสังคมที่เกิดขึ้น โดยนำหลักนิติภิวัฒน์เป็นกรอบการศึกษาแบบสหวิทยาการและบูรณาการเพื่อเชื่อมโยง "การเมืองกับกฎหมาย" ให้เข้ามาเชื่อมโยงกัน เพื่อทำให้เห็นภาพใด้ชัดเจนมากขึ้นและทลายกำแพงทางวิชาการของ "รัฐศาสตร์" กับ "นิติศาสตร์" ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองกับกฎหมายให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับกฎหมายมหาชน : กรณีศึกษาการเมืองกับกฎหมาย มากยิ่งขึ้นว่าควรศึกษาศาสตร์ทั้งสองควบคู่กันไปไม่สามารถที่จะแยกจากกันได้
  2. ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับกฎหมายมหาชน : กรณีศึกษาการเมืองกับกฎหมาย พบว่า การเมืองเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับกฎหมายมหาชน : กรณีศึกษาการเมืองกับกฎหมาย เพราะว่าการเมืองอ่อนแอเพราะสถาบันการเมืองไม่สมดุล บางสถาบันถูกอำนาจครอบงำและประชาชนไม่มีสิทธิเสรีภาพย่อมนำมาสู่การสร้างและขยายตัวของกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้กับ "ฝ่ายการเมือง" ทั้งในด้านของรัฐบาลที่จะเป็นการปกครองด้วยกฎหมายอย่างเบ็ดเสร็จในการตอบสนองความต้องการตัวเองเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการตัดสินใจของคนธรรมดา กฎหมายถูกทำให้เป็นการเมืองเพราะระบบกฎหมายอ่อนแอ ไม่สามารถบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพในสังคมได้ ทำให้กระบวนการนิติภิวัฒน์กลายเป็นเพียงการร่างกฎหมายเพื่อตอบสนองความต้องการทางการเมืองในบางเหตุการณ์และบางช่วงเวลา นำมาสู่สิ่งที่เรียกว่าการขยายตัวของกฎหมายทางการเมือง โดยจะมีกฎหมายจำนวนมากที่ออกมาตามความต้องการของพลังทางการเมืองและสังคม แต่เป็นกฎหมายที่ไม่ยั่งยืนและไม่สามารถใช้บังคับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น การร่างกฎหมายต่าง ๆ ที่มีขึ้นเพื่อปกป้อง "รัฐ" มากกว่าประชาชน
  3. การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับกฎหมายมหาชน: กรณีศึกษาการเมืองกับกฎหมาย พบว่า ควรที่จะมีการนำหลักนิติภิวัฒน์เป็นแนวทางเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับกฎหมายมหาชน โดยช่วยในการมองความสัมพันธ์ระหว่าง "การเมือง" และ "กฎหมาย" ให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น และทำให้กฎหมายไม่ใช่การมองตัวบทที่เป็นลายลักษณ์อักษรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองถึงแนวคิด ความสัมพันธ์ทางอำนาจและทฤษฎีการเมืองต่าง ๆ โดยมองการขยายตัวของกฎหมายในการเข้ามาจัดการปัญหาสังคมในรูปแบบต่าง ๆ

References

จาตุรงค์ สุทาวัน และวีระ หวังสัจจะโชค. (2567). ปรากฏการณ์นักร้องกับผลสะเทือนทางการเมืองจาก ระบอบตุลาการภิวัฒน์ หลัง พ.ศ. 2549 – 2563. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปวิทววศน์, 18(1), มกราคม - กุมภาพันธ์ 2567, น.96 - 111.

วีระ หวังสัจจะโชค. (2559). นิติภิวัฒน์กับความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองและกฎหมาย: กรอบการทำความเข้าใจการขยายตัวของกฎหมายด้วยมุมมองทางรัฐศาสตร์. วารสารการเมืองการบริหารและกฎหมาย, 8 (3), น.137 - 167.

วิรัช ศรีอินทรสุทธิ์. (2564). บทบาทของศาลรัฐธรรมนูญกับพัฒนาการทางการเมืองไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2540 – 2564. วารสารรัฐศาสตร์รอบรู้และสหวิทยาการ, 5(3), พฤษภาคม - มิถุนายน 2565, น.135-148.

Feldman, D. (2013). Beginning at the Beginning: The Relationships between Politics and Law. in David Feldman (ed.) in Politics, Politics in Law. Oregon: Hart Publishing.

Loick, D. (2014). Judaification and Politics: From the Dilemma of Judaification to the Paradoxes of Rights. Philosophy and Social Criticism, 40(8), pp. 757-778.

เผยแพร่แล้ว

06/30/2025

How to Cite

ศิวกีรัตตนะ ส. ., เสี่ยงโชคอยู่ น. ., & พลับพลา . พ. . (2025). ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับกฎหมายมหาชน : กรณีศึกษาการเมืองกับกฎหมาย. วารสารวิจัยธรรมศึกษา, 8(1), 354–368. สืบค้น จาก https://so07.tci-thaijo.org/index.php/dsr/article/view/6389