การศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ยุควิถีชีวิตใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
พฤติกรรม, สื่อสังคมออน์ไลน์, ยุควิถีชีวิตใหม่บทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมและปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้
สื่อสังคมออนไลน์ยุควิถีชีวิตใหม่ของประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้แบบสอบถามเก็บรวบรวมข้อมูลจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 400 ตัวอย่าง ข้อมูลที่รวบรวมได้ทั้งหมดนำมาวิเคราะห์เชิงพรรณนา ค่าสถิตที่ใช้คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมสถิติในการวิจัยทางสังคมศาสตร์
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการเข้าใช้สื่อสังคมออนไลน์ ระหว่าง 11–14 ครั้งต่อวัน ใช้เวลาในการเข้าสื่อสังคมออนไลน์ ระหว่าง 6–10 ชั่วโมงต่อวัน โดยเข้าใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่บ้าน ช่วงเวลาที่เข้าใช้ระหว่าง 07.00 น.–09.00 น. อุปกรณ์ในการเข้าสื่อสังคมออนไลน์ใช้สมาร์ทโฟน ส่วนเว็บไซต์ที่เข้าใช้มากที่สุด คือ Twitter จากการที่เพื่อนแนะนำ/ชักชวนให้เล่น ด้วยจุดประสงค์เพื่อการศึกษาและมีประสบการณ์ในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ระหว่าง 7–8 ปี ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ยุควิถีชีวิตใหม่ มี 3 ปัจจัย ดังนี้ ปัจจัยแรกเป็นปัจจัยด้านการรับรู้ประโยชน์ของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีการเรียนรู้และรู้จักสื่อสังคมออนไลน์หรือแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ค่าเฉลี่ย (x̅) เท่ากับ 4.55 (มากที่สุด) ปัจจัยที่สองเป็นปัจจัยด้านการเข้าใจง่ายในการใช้งานของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีความเข้าใจวิธีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ค่าเฉลี่ย (x̅ ) เท่ากับ 4.34 (มากที่สุด) และปัจจัยที่สามเป็นปัจจัยด้านทัศนคติต่อการใช้งานของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า การใช้สื่อสังคมออนไลน์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน ค่าเฉลี่ย (x̅) เท่ากับ 4.12 (มาก)
References
กัลยา เขียวเปลื้อง. (2563). พฤติกรรมของประชาชนในการรับรู้เครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ของสำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดกาญจนบุรี. วารสารบัณฑิต
วิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม, 16 (2), 79-93.
ครองรัตน์ ดุลลาพันธ์. (2561). พฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์และปัจจัยทางจิตพยากรณ์. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์
และนวัตกรรม บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
ณิชกุล เสนาวงษ์. (2564). การศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของคนเจนเนอเรชั่นแซด ในยุค New Normal ในกรุงเทพมหานคร. การค้นคว้าอิสระ
บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการตลาด บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยาม.
ณัฐวดี บุญวัฒโนภัส. (2559). การใช้สื่อสังคมออนไลน์และการรู้เท่าทันสื่อสุขภาพของเยาวชนในอำเภอเมืองภูเก็ต. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 10 (3), 48-62.
วราพร ดำจับ. (2562). สื่อสังคมออนไลน์กับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. วารสารศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้, 7 (2), 143-159.
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์. (2565.) รายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2565. กรุงเทพฯ: กระทรวงดิจิทัลเพื่อ
เศรษฐกิจและสังคม.
สุดารัตน์ ดิษยวรรธนะ และจันทรา วัฒนากุล. (2555). รู้เท่าทันโซเชียลมีเดีย. กรุงเทพฯ: ออฟเซ็ทพลัส.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2563). รายงานการสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน พ.ศ. 2563. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
หยาดพิรุณ ศุภรากรสกลุ. (2558). พฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์และผลกระทบต่อ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาในจังหวัดเพชรบูรณ์. วารสาร
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 8 (2), 53-71.
Chen, H. & Wu S. J. (2018). Purchase intention in social commerce: Anempirical examination of perceived value and social awareness.
Library Hi Tech.
Ooi, K. B. & Tan, G. W. H. (2016). Mobile technology acceptance model: An investigation using mobile users to explore smartphone
credit card. Journal of Expert Systems with Applications, 59 (1), 33-46.
Yamane, T. (1973). Statistic: An introduction analysis (3rd ed.). New York: Harper and Row.

Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม