ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2558: ศึกษากรณีสัญญาเช่าหอพักเอกชน

ผู้แต่ง

  • Worraluck Muangchoo -

คำสำคัญ:

Dormitory Act B.E. 2558, Private Dormitories

บทคัดย่อ

วิจัยเรื่องนี้เป็นงานวิจัยทางกฎหมายเกี่ยวกับพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2558 ศึกษากรณีสัญญาเช่าหอพักเอกชน ซึ่งกฎหมายฉบับดังกล่าวเป็นกฎหมายฉบับสำคัญในการคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนที่อยู่ระหว่างการศึกษาและอาศัยในหอพักให้ได้รับการดูแลและมีสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยอย่างเหมาะสม
การปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวต้องอาศัยการร่วมมือของหลายหน่วยงาน

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาสัญญาเช่าหอพักตามพระราชบัญญัติหอพัก 2558 ศึกษาในกรณีของหอพักเอกชนหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ศึกษาถึงลักษณะของการทำสัญญาหอพักว่าเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่รวมไปถึงการกำหนดเนื้อหาในสัญญาเช่าหอพัก เพื่อหาแนวทางแก้ไขและให้ผู้ประกอบกิจการหอพักหน้ามหาวิทยาลัยสามารถดำเนินการตามพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2558 ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อเป็นการคุ้มครองเด็กและเยาวชนได้อย่างแท้จริง และป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบกิจการหอพักได้รับความเสียหายและได้รับโทษตามที่พระราชบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดไว้อีกด้วย

ผลการศึกษาพบปัญหาในเรื่องดังต่อไปนี้ 1.ปัญหาเรื่องการจดทะเบียนหอพัก ในปัจจุบันพบว่าหอพักหลายแห่งในหน้ามหาวิทยาลัยพะเยาไม่มีการจดทะเบียนหอพักตามพระราชบัญญัติหอพัก 2558 ซึ่งอาจเกิดจากการที่ผู้ประกอบการไม่ทราบหลักเกณฑ์การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2558 หรือจงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ 2. ปัญหาเกี่ยวกับการทำสัญญาเป็นหนังสือ ซึ่งการทำสัญญาเช่าหอพักเอกชนกฎหมายตาม พระราชบัญญัติหอพัก 2558 กำหนดให้การทำสัญญาเช่าหอพักในปัจจุบันจะต้องมีการทำหนังสือ แต่ยังปรากฎว่าผู้ประกอบกิจการหอพักหลายๆแห่งหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา หลาย ๆ หอพักยังไม่มีการทำเป็นหนังสือ 3. ตามพระราชบัญญัติหอพักกำหนดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับนิสิตผู้พัก เช่น ต้องมีที่สำหรับรับประทานอาหาร สถานที่สำหรับรับรองแขกผู้มาเยี่ยมเยือน แต่ปรากฎว่าหอพักส่วนใหญ่ไม่ได้มีการดำเนินการเพื่อให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าว มีแค่ในส่วนของห้องพักและที่ติดต่อเจ้าของหอพักหรือผู้จัดการหอพักเท่านั้น 4. ปัญหาเกี่ยวกับการแบ่งประเภทหอพัก พบว่ากฎหมายกำหนดให้แบ่งประเภทหอพักออกเป็น
2 ประเภท คือ หอพักชายและหอพักหญิง แต่ในทางปฏิบัติพบว่าไม่ได้มีการแยกหอพักชายและหอพักหญิงอย่างชัดเจน มีการพักรวมกันระหว่างชายและหญิง

          ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะว่า เห็นควรมีการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ดังนี้  1. หน่วยงานทางภาครัฐที่เกี่ยวข้องหรือคณะกรรมการส่งเสริมกิจการหอพัก ควรมีการส่งเสริมสิทธิประโยชน์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับหอพักที่มีการจดทะเบียน นอกจากหอพักเอกชนที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณจากคณะกรรมการส่งเสริมกิจการหอพักแล้ว หอพักอื่น ๆ ที่ได้มีการจดทะเบียนก็ควรมีการส่งเสริมด้วย โดยอาจกำหนดให้ได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านภาษีอากร การสนับสนุนด้านการเงิน วัสดุ หรืออุปกรณ์ เนื่องจากการจะดำเนินการตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ต้องมีค่าใช้จ่ายพอสมควรและเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติอยู่ภายใต้มาตรฐานของพระราชบัญญัติเพิ่มเติมจำนวนหนึ่ง หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมหรือสนับสนุนสิทธิประโยชน์และสิ่งอำนวยความสะดวกก็จะเพิ่มโอกาสให้หอพักต่างจดทะเบียนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งหน่วยงานที่กำกับดูแลต้องเข้าไปตรวจสอบ และกำหนดบทลงโทษที่เข้มงวดแก่หอพักที่ไม่ดำเนินการหรือตั้งใจหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วย 2. เสนอให้มีการจัดตั้งชมรมผู้ประกอบการกิจการหอพักหน้ามหาวิทยาลัย โดยอาจข้อความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่ปรึกษาชมรมและให้ความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัย เพื่อให้ความรู้และช่วยเหลือในการดำเนินการทำสัญญาที่ถูกต้องและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด 3. การจัดสิ่งอำนวยความสะดวก เห็นควรให้หน่วยงานเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการให้มีการเพิ่มเติมหรือแก้ไขในกรณีที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานและกำหนดบทลงโทษแก่เจ้าของหอพักที่ไม่จัดสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่กฎหมายกำหนด 4. ปัญหาเรื่องการแบ่งประเภทหอพัก เห็นสมควรให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2558 ในการลงโทษเจ้าของหอพัก และ
ควรกำหนดให้หน่วยงานของรัฐเข้าไปตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ

คำสำคัญ : พระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2558, หอพักเอกชน  

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

27-06-2025

รูปแบบการอ้างอิง

Muangchoo, W. (2025). ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2558: ศึกษากรณีสัญญาเช่าหอพักเอกชน. วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา, 4(1), 73–84. สืบค้น จาก https://so07.tci-thaijo.org/index.php/UpLawJournal/article/view/8213

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย