กลยุทธ์การตลาดเพื่อส่งเสริมการตลาดเชิงกิจกรรมและการจัดการธุรกิจไมซ์ภายใต้สังคมใหม่ Social Distancing Economy ตามแบบเศรษฐกิจ New Normal กรณีศึกษาการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช
คำสำคัญ:
กลยุทธ์การตลาด, การตลาดเชิงกิจกรรม, การจัดการธุรกิจไมซ์, การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล, ความปกติใหม่บทคัดย่อ
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยการท่องเที่ยว ศึกษาความพึงพอใจและศึกษาส่วนประสมทางการตลาดการจัดการธุรกิจไมซ์การท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราช สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงใช้การสุ่มตัวอย่างแบบสะดวก วิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพรรณนา แจกแจงความถี่ ค่าร้อยละและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์สถิติเชิงอนุมาน ปัจจัยการท่องเที่ยว พบว่า การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ท่องเที่ยวเฉพาะครอบครัว/ญาติ พาหนะคือรถยนต์ส่วนบุคคล สมาชิกที่ร่วมเดินทาง 1-5 คน ระยะเวลา 2-3 วัน ค่าใช้จ่าย 9,001 – 12,000 บาท ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.23) (S.D.= 0.94) พบว่า ภาพลักษณ์ ความโดดเด่น ทำเลที่ตั้ง / ชื่อเสียงของสถานที่ มีระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สถานที่จอดรถมีเพียงพอ มีความปลอดภัย ส่วนประสมทางการตลาดการจัดการธุรกิจไมซ์ ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.17) (S.D.= 0.41) พบว่า ด้านผลิตภัณฑ์สถานที่มีความปลอดภัย ด้านการส่งเสริมการตลาด มีการใช้สื่อที่มีประสิทธิภาพเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง ด้านบุคลากร มีความเป็นมืออาชีพในการจัดกิจกรรมและด้านลักษณะทางกายภาพ มีเจ้าหน้าที่คอยบริการตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรม
กลยุทธ์การตลาดเพื่อส่งเสริมการตลาดเชิงกิจกรรมและการจัดการธุรกิจไมซ์ของการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราชภายใต้สังคมใหม่ Social Distancing Economy ตามแบบเศรษฐกิจ New Normal คือ ทราบความต้องการของผู้บริโภค พัฒนาคุณภาพการบริการ การสร้างความแตกต่างการบริการ สร้างอัตลักษณ์และความภาคภูมิใจในชุมชนผ่านกระบวนการคิดสร้างสรรค์ การใช้สื่อออนไลน์และการสื่อสารทางการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้การวางแผนการจัดการและการสื่อสารที่ดีมีแผนการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกันและการสร้างการรับรู้
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค. (2564, 3 มกราคม). แนวทางปฏิบัติเพื่อการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด 19 สำหรับประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยง. เข้าถึงได้จาก https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/int_protection/int_protection_030164.pdf
ชิดชนก ศรีเมือง. (2561). พฤติกรรมและความคาดหวังของนักท่องเที่ยวในการท่องเที่ยวทางทะเลภาคตะวันออก. (วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ.
ธีระพงษ์ ทศวัฒน์, นราธิป ปิติธนบดี, และ นฤมล อนุสนธิ์พัฒน์. (2565) รูปแบบการท่องเที่ยวชุมชนบนเส้นทางการเรียนรู้วิถีใหม่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด -19 (Covid-19). วารสารรัฐประศาสนศาสตร์และการจัดการสังคม, 4(2), 60-72.
ปฐณวิกรณ์ ฐิตาภัทรภิญโญ, พุฒิธร จิรายุส, และ ภัสสิรี วรเวชธนกุล. (2564). ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดออนไลน์ที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าจากร้านโชว์ห่วยผ่านทางแอปพลิเคชัน Shopee. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์, 5(2), 111-132.
ประอรพิชญ์ คัจฉวัฒนา. (2558). ปลูกข้าวกันเถอะ. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
พรรณี ลีกิจวัฒนะ. (2553). วิธีการวิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.
ยุทธศักดิ์ สุภสร. (2563). ท่องเที่ยว "วิถีใหม่" อย่างรับผิดชอบ. เข้าถึงได้จาก https://d.dailynews.co.th/travel/791737/
รัศมีพร พยุงพงษ์ และ เจกิตาน์ ศรีสรวล. (2564). พฤติกรรมการท่องเที่ยววิถีใหม่ของนักท่องเที่ยวชาวไทย ในแหล่งท่องเที่ยวชายหาด อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี. วารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี, 17(3), 92-101.
เรวดี ฉลาดเจน และ ชาตยา นิลพลับ. (2564).ส่วนประสมทางการตลาดออนไลน์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ ซื้อสินค้าผ่านช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของกลุ่มเจเนอเรชั่น Y. วารสารสหวิทยาการเพื่อการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์, 11(2), 91-103.
ศิริชัย พงษ์วิชัย. (2550). การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยคอมพิวเตอร์. (พิมพ์ครั้งที่ 18). กรุงเทพฯ: สุพีเรีย พริ้นติ้งเฮาส์.
สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย. (ม.ป.ป.). ประวัติความเป็นมา สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.). ผู้แต่ง. เข้าถึงได้จาก https://www.ceinnovationpolicy.org/platform/yam81G3wJQ6
สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว. (2554). คนไทยแห่เที่ยวต่างประเทศ. เข้าถึงได้จาก http://www.manager.co.th/business/ViewNews.aspx?NewsID
สำเริง จันทรสุวรรณ และ สุวรรณ บัวทวน. (2557). ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์. ขอนแก่น: ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สุพัตรา รุ่งรัตน์, ซูลฟีกอร์ มาโซ, และ ยุทธนา กาเด็ม. (2564). ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์ โควิด-19 ของ ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองยะลา จังหวัดยะลา. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา.
สุภารัตน์ ศรีสว่าง และ ถนอม พงษ์พานิช. (2564). ทัศนคติความไว้วางใจและส่วนประสมทางการตลาดออนไลน์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านเฟซบุ๊กของบุคคลกลุ่มเจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ, 10(1),183-192.
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. (2562). การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. กรุงเทพฯ: บริษัท โคคูน แอนด์โค จํากัด
Azis, N., Amin, M., Chan, S., & Aprilia, C. (2020). How smart tourism technologies affect tourist destination loyalty, Journal of Hospitality and Tourism Technology, 11(4), 603-625.
Hair, J. F., Black, W. C., Babin, B. J., & Anderson, R. E. (2006). Multivariate data analysis (6th ed.). Upper Saddle River, NJ: Pearson Prentice Hall.
Jang, Y.-C., Lee, G., Kwon, Y., Lim, J-H., & Jeong, J-H. (2020). Recycling and management practices of plastic packaging waste towards a circular economy in South Korea. Resources, Conservation & Recycling, 158. 104798. https://doi.org/10.1016/j.resconrec.2020.104798
Johnson-Conley, C. D. (2009). Using Community-based participatory research in the development of a consumer-driven cultural competency tool. Graduate School, University of Washington.
Kim, J. H., Ritchie, J. R. B., & McCormick, B. (2012). Development of a scale to measure memorable tourism experience. Journal of Travel Research, 51(1), 12-25.
Pai, C.-K., Liu, Y., Kang, S., & Dai, A. (2020). The role of perceived smart tourism technology experience for tourist satisfaction, happiness and revisit intention. Sustainability, 12(16), 6592. https://doi.org/10.3390/su12166592
Torabi, Z.-A., Shalbfian, A. A., Allam, Z., Ghaderi, Z., Murgante, B., & Khavarian-Garmsir, A. R. (2022). Enhancing memorable experiences, tourist satisfaction, and revisit intention through smart tourism technologies. Sustainability, 14(5), 2721. https://doi.org/10.3390/su14052721
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยสยาม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ผู้เขียนบทความ และผู้นำส่งบทความ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องลิขสิทธิ์ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ สิทธิ์แห่งความเป็นเจ้าของบทความ สิทธิ์แห่งการได้มาซึ่งบทความ สิทธิ์ของการได้มาซึ่งข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในบทความ สิทธิ์ของการใช้เครื่องมือเพื่อการประมวลผล หรือสิทธิ์อื่นใดอันเกี่ยวข้องกับบทความ วารสาร “วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม เป็นผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้นำบทความออกเผยแพร่โดยสุจริตเท่านั้น สิทธิ์ทั้งปวงอันเกี่ยวข้องกับบทความยังเป็นของเจ้าของสิทธิ์อยู่ สิทธิ์นั้นไม่ได้ถูกถ่ายโอนมาเป็นของวารสารฯ แต่อย่างใด
ข้อความที่ปรากฏอยู่ในบทความนั้น ถือเป็นทัศนะอิสระของผู้เขียน โดยผู้เขียนแต่ละท่านให้การรับรองว่าบทความของตนมิได้ละเมิดลิขสิทธิ์อันเป็นของผู้อื่น วารสารฯ และ ผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรองบทความ เป็นแต่เพียงผู้ให้ความเห็นเรื่องคุณภาพของเนื้อหา และความเหมาะสมของรูปแบบการนำเสนอเท่านั้น วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม และ ผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรองบทความ ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อข้อความใดๆ อันเกิดจากทัศนะ และสิทธิ์ในการตีพิมพ์และเผยแพร่ของผู้เขียน