การศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนระบบการผลิตไฟฟ้าใช้เอง ด้วยเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านในประเทศไทย

บทคัดย่อ

การศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนระบบการผลิตไฟฟ้าใช้เองด้วยเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา การศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนระบบการผลิตไฟฟ้าใช้เองด้วยเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา บ้านในประเทศไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ศึกษารูปแบบและทางเลือกทางด้าน เทคนิค และศึกษาความคุ้มค่าทางด้านการเงินในการลงทุนติดตั้งระบบการผลิตพลังงานไฟฟ้าใช้เองด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ในภาคครัวเรือน ซึ่งการศึกษาใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกจาก วิศวกรและผู้บริหารของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งระบบการผลิตไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์บน หลังคาบ้านและข้อมูลทุติยภูมิจากการเก็บรวบรวมข้อมูลจากวิทยานิพนธ์งานวิจัย หนังสือบทความของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยอาศัยเครื่องมือทางการเงินมาใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ มูลค่าปัจจุบันสุทธิ อัตรา ผลตอบแทนภายในของโครงการอัตราผลตอบแทนภายในของโครงการที่มีการปรับแล้ว และดัชนี ความสามารถทำกำไร การวิเคราะห์ความไม่แน่นอนของโครงการโดยการทดสอบค่าความแปรเปลี่ยน และการวิเคราะห์ความอ่อนไหว ผลการศึกษาพบว่าพื้นที่ในประเทศไทยมโอกาสได้รับแสงสว่างจำกัดวงอาทิตย์ เกือบตลอดทั้งปี ซึ่งจะได้รับแสงอาทิตย์ครอบคลุมตั้งแต่เวลา 09.00 - 15.00 น. ในการลงทุนระบบการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านในประเทศไทย จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ (1) กรณีที่ผู้ติดตั้งมีความต้องการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ทันที่จะเลือกระบบการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์แบบระบบต่อเชื่อม กับสายส่ง และ (2) กรณีที่ผู้ติดตั้งมีความต้องการในการสำรองไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่ จะเลือกระบบการิดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์แบบระบบต่อเชื่อมกับสายส่ง ที่มีแบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานสำรอง โดยชนิดของ เซลล์แสงอาทิตย์ที่มีความเหมาะสมมากที่สุด คือเซลล์แสงอาทิตย์ ชนิดผลึกรวม ซึ่งแต่ละกรณีจะมีกำลัง การผลต่อยู่ที่ 2,000วัตต์ 2,500วัตต์ 3,000 วัตต์ และ3,500 วัตต์ จากการวิเคราะห์ทางด้านการเงินโดย พิจารณาจาก NPV IRR MIRR และPI พบว่า กรณีที่ผู้ติดตั้งมีความต้องการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ทันที่มี ความคุ้มค่าในการลงทุนทุกกำลังการผลิต และกรณีที่ผู้ติดตั้งมีความต้องการในการสำรองไฟฟ้าไว้ใน แบตเตอรี่มีความคุ้มในการลงทุนที่กำลังการผลิต 2,000 วัตต์ 2,500 วัตต์ และ3,000 วัตต์ยกเว้นกำลัง การผลิต 3,500 วัตต์