ความพร้อมในการประยุกต์ใช้มาตรฐานรายงานทางการเงินของราชอาณาจักรกัมพูชา
คำสำคัญ:
มาตรฐานรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (IFRS)บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาในเชิงลึกเกี่ยวกับความพร้อมและการนำมาตรฐานรายงานทางการเงินมาปรับใช้ในราชอาณาจักรกัมพูชา โดยการวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพที่ได้เริ่มต้นด้วยการศึกษางานวิจัยและบทความที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาสร้างแบบสัมภาษณ์ ซึ่งคำถามในแบบสัมภาษณ์แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นคำถามเกี่ยวกับแนวทางการประยุกต์ใช้มาตรฐานรายงานทางการเงิน และส่วนที่สอง เป็นคำถามเกี่ยวกับความพร้อมในการประยุกต์ใช้มาตรฐานรายงานทางการเงินในราชอาณาจักรกัมพูชา กลุ่มตัวอย่างแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ออกมาตรฐานการบัญชี ณ สภาวิชาชีพบัญชีแห่งชาติ (deputies of associate of NAC) กลุ่มผู้เชี่ยวชาญมาตรฐานรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (IFRS experts) และกลุ่มนักบัญชีรับอนุญาต (ACCA graduate) และใช้การวิเคราะห์เนื้อหาเพื่อสรุปผลการวิจัย
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวแทนของนักบัญชีที่ได้รับอนุญาต (ACCA graduate) และกลุ่มตัวแทนของผู้เชี่ยวชาญมาตรฐานรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (IFRS experts) มีความเห็นว่า แนวทางในการประยุกต์ใช้มาตรฐานรายงานทางการเงินระหว่างประเทศทั้งในมุมของนโยบาย แผนและทรัพยากรมีความพร้อมอยู่ที่ระดับ 10% ถึง 20% ในขณะที่กลุ่มตัวแทนของผู้ออกมาตรฐานการบัญชี ณ สภาวิชาชีพบัญชีแห่งชาติ (deputies of associate of NAC) มีความเห็นว่ากัมพูชามีความพร้อมอยู่ที่ระดับ 30% โดยตัวแทนของสองกลุ่มแรกคิดว่าประเทศกัมพูชายังไม่มีนโยบายและแผนที่ชัดเจน รวมถึงขาดทรัพยากรทั้งทางด้านสถาบันในการผลิตนักบัญชีและระบบสารสนเทศที่เหมาะสมสำหรับระบบบัญชี ในด้านความพร้อมในการประยุกต์ใช้มาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศที่ต้องอาศัยปัจจัยดังต่อไปนี้ คือ หน่วยงานที่ผลักดันกระบวนการทำงาน หัวหน้าทีม การยอมรับของตลาดระหว่างประเทศ การกำหนดเป้าหมาย การกำหนดระยะเวลาที่บังคับใช้ และการสร้างขีดความสามารถ อย่างไรก็ตามทั้งสามกลุ่มคิดว่าประเทศกัมพูชายังขาดทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและผู้จัดทำงบการเงิน ทั้งสองเรื่องเป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับประเทศกัมพูชาและยังต้องการเวลาสำหรับการฝึกอบรม
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2019 Vaanda Chheang
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ผู้เขียนบทความ และผู้นำส่งบทความ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องลิขสิทธิ์ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ สิทธิ์แห่งความเป็นเจ้าของบทความ สิทธิ์แห่งการได้มาซึ่งบทความ สิทธิ์ของการได้มาซึ่งข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในบทความ สิทธิ์ของการใช้เครื่องมือเพื่อการประมวลผล หรือสิทธิ์อื่นใดอันเกี่ยวข้องกับบทความ วารสาร “สยามวิชาการ” เป็นผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้นำบทความออกเผยแพร่โดยสุจริตเท่านั้น สิทธิ์ทั้งปวงอันเกี่ยวข้องกับบทความยังเป็นของเจ้าของสิทธิ์อยู่ สิทธิ์นั้นไม่ได้ถูกถ่ายโอนมาเป็นของวารสารฯ แต่อย่างใด
ข้อความที่ปรากฏอยู่ในบทความนั้น ถือเป็นทัศนะอิสระของผู้เขียน โดยผู้เขียนแต่ละท่านให้การรับรองว่าบทความของตนมิได้ละเมิดลิขสิทธิ์อันเป็นของผู้อื่น วารสารฯ และ ผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรองบทความ เป็นแต่เพียงผู้ให้ความเห็นเรื่องคุณภาพของเนื้อหา และความเหมาะสมของรูปแบบการนำเสนอเท่านั้น วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม และ ผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรองบทความ ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อข้อความใดๆ อันเกิดจากทัศนะ และสิทธิ์ในการตีพิมพ์และเผยแพร่ของผู้เขียน