การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษด้วยการเรียนรู้แบบร่วมมือของนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
คำสำคัญ:
ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ, การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ, เทคนิคการแบ่งกลุ่มสัมฤทธิ์บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิคแบ่งกลุ่มคละผลสัมฤทธิ์ (Student Teams -Achievement Divisions: STAD) เพื่อพัฒนาการอ่านจับใจความวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 2 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 2) ประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อกิจกรรมการเรียนการสอนแบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD หลังการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคดังกล่าว กลุ่มตัวอย่างการวิจัย คือ นักศึกษาสาขาเศรษฐศาสตร์ชั้นปีที่ 1 จำนวน 50 คน ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 2 ในภาคเรียนที่ 2/2560 จำนวน 1 ห้องเรียนโดยใช้วิธีสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ (1) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องการอ่านจับใจความแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD รวมทั้งสิ้น 5 แผน ใช้เวลาทำกิจกรรมแผนละ 90 นาที (2) แบบทดสอบก่อนเรียน (Pretest) และหลังเรียน (Posttest) (3) แบบสอบถามวัดความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ STAD หลังการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่าด้วย Paired t-test ผลการวิจัยพบว่าผลสัมฤทธิ์หลังกิจกรรมการเรียนรู้ (Posttest) ด้านการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษของนักศึกษาด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค STAD พบว่านักศึกษามีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 นอกจากนี้ยังพบว่า โดยภาพรวมนักศึกษามีความพึงพอใจต่อวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD อยู่ในที่ระดับค่อนข้างสูง (Mean = 4.28, S.D. = 0.36) และเมื่อพิจารณารายด้านปรากฏว่าความพึงพอใจของนักศึกษาอยู่ในระดับมากที่สุดเมื่อพิจารณาโดยภาพรวม
เอกสารอ้างอิง
กิริยา ปี่ทอง. (2552). การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านและความรับผิดชอบในการเรียนของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนรู้แบบ STAD กับที่เรียนรู้แบบ 4 MAT (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา, พระนครศรีอยุธยา.
ปราณี แพรอัตร์. (2553). ผลการเรียนรู้เรื่องการวัดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยเทคนิค STAD โดยประยุกต์ใช้กิจกรรมการละเล่นของเด็กไทย (ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร, กรุงเทพฯ.
บุณยภัทร สมเพชร. (2554). ผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านวังผา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขตเชียงราย. (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาราชภัฏเชียงราย, เชียงราย.
ชัชชัย แซ่ปิง. (2554). การศึกษาผลสัมฟทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษด้วยวิธีการเรียนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มคละผลสัมฤทธิ์ (เอส ที เอ ดี) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 3(1), 90 -98.
วนิดา ศรีมุงคุณ. (2554). การพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือเทคนิค STAD ด้วยชุด การสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างปะเทศ (ภาษาอังกฤษ) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. สืบค้น 13 ตุลาคม 2554, จาก http://ครูไทย.com
สมเกียรติ อ่อนวิมล. (2555). การใช้ภาษาอังกฤษกับอนาคตไทยในอาเซียน. สืบค้น 3 กันยายน 2560, จาก http://www.dla.go.th/upload/ebook/column/2013/5/2060_5264.pdf
Akgun, Ali Mehmet. (1997). A Fun Reading Comprehension Activity. The Internet TESL Journal, 3(10), October.
Slavin, R.E. (1980). Effects of student teams and peer tutoring on academic achievement and time on task. Journal Experimental Education, 48, 252-57.
Slavin, R.E. (1987). Cooperative Learning and the Cooperative School. Education Leadership, 45(3), 7-13.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2020 วารสารศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.


