ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการนำเอาข้อมูลสารพันธุกรรมไปใช้ในคดีอื่น
คำสำคัญ:
สารพันธุกรรม, ข้อมูลส่วนบุคคล, การนำเอาข้อมูลสารพันธุกรรมไปใช้ในคดีอื่นบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการนำเอาข้อมูลสารพันธุกรรมไปใช้ในคดีอื่นนอกเหนือจากคดีอาญาที่เก็บข้อมูลสารพันธุกรรมของผู้เสียหายหรือจำเลย ทั้งนี้ ข้อมูลสารพันธุกรรมนี้ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามมาตรา 6 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ซึ่งหน่วยงานราชการเป็นผู้มีสิทธินำข้อมูลของบุคคลไปใช้หรือเก็บรักษา แต่การจะนำไปใช้ในคดีอาญาอื่น ๆ หรือคดีแพ่งใด ๆ จะต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลสารพันธุกรรม เว้นแต่เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล หรือเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด
อย่างไรก็ดี ประเทศไทยมิได้บัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับกำกับดูแลการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการข้อมูลสารพันธุกรรมดังเช่นต่างประเทศ ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี
จากการศึกษาจึงขอเสนอแนะดังนี้
1) ควรยกเลิกความในมาตรา 4 (2) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
2) ควรประกาศพระราชกฤษฎีกาและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บข้อมูลสารพันธุกรรม กำหนดฐานความผิด กระบวนการขอใช้ข้อมูลสารพันธุกรรม ระยะเวลาการจัดเก็บ และการลบหรือทำลายข้อมูลสารพันธุกรรมโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
3) ควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 การอนุญาตให้ใช้ข้อมูลสารพันธุกรรมควรจัดตั้งคณะกรรมการบริหารข้อมูลสารพันธุกรรม
เอกสารอ้างอิง
ภาคภูมิ วิธานนติรวัฒน์ และคณะ. (2556). คู่มือสิทธิมนุษยชน นิติวิทยาศาสตร์ และนิติเวช สำหรับทนายความ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เดือนตุลา.
ศรันยา สีมา. สารพันธุกรรม (DNA) กับกระบวนการยุติธรรม (รายการ ร้อยเรื่อง…เมืองไทย). [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://library2.parliament.go.th/giventake/content_royrueng/2560/rr2560-jul5.pdf.
นิกร โภคอุดม. (2563). ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในยุคดิจิทัล. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์น เอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ ปีที่ 14 ฉบับที่ 2 ประจำเดือน พฤษภาคม-สิงหาคม 2563.
เนาวรัตน์ ทองนำ และคณะ. ความก้าวหน้าและผลสัมฤทธิ์ของฐานข้อมูลสารพันธุกรรมผู้ต้องขังของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ในการอำนวยความยุติธรรมและคุ้มครองสังคม. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.cifs.go.th/Files/news//file/109bf35a-641c-4df6-9f86-28e9268a7d1a.pdf.
รุ่งระวี โสขุมา. (2539). ลายพิมพ์ดีเอ็นเอกับการดำเนินคดีอาญา. บทบัณฑิตย์, 52(1), 198.
วรพจน์ วิศรุตพิชญ์. (2543). สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: บริษัทสำนักพิมพ์วิญญูชน จำกัด.
วิชัย บุญแสง และคณะ (2545). ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ จากสารพันธุกรรมสู่เทคโนโลยีพิสูจน์บุคคล. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ.
วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์. (2551). เวชระเบียนเป็นของใคร. เวชบันทึกศิริราช, 1(1).
John A. E. Vervaele, F.C.W. de Graaf, N. Tielemans. (21012). The dutch focus on DNA in the criminal justice system: net-widening of judicial data. Revue Internationale de droit penal, 3-4(83).
Parliamentary Office of Science and Technology. (2006). The DNA Database. February 2006 Number 258.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารวิจัยธรรมศึกษา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.