ความสัมพันธ์ระหว่างจริยธรรมในการปฏิบัติงานกับความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน บริษัท เซ็นโทซ่า จำกัด จังหวัดขอนแก่น
คำสำคัญ:
จริยธรรมในการปฏิบัติงาน, ความผูกพันกับองค์กรบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับจริยธรรมในการปฏิบัติงาน ระดับความผูกพันต่อองค์กร และความสัมพันธ์ระหว่างจริยธรรมในการปฏิบัติงานกับความผูกพันต่อองค์กร ของพนักงานบริษัท เซ็นโทซ่า จำกัด จังหวัดขอนแก่น โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากพนักงานจำนวน 129 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ใช้แบบสอบถาม แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ เครื่องมือที่ใช้ในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.95 และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป โดยสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ความถี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทำการ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวแปร 2 กลุ่ม ด้วยสถิติทดสอบความสัมพันธ์เพื่อหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ แบบเพียร์สัน โดยกำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับจริยธรรมในการปฏิบัติงาน ของพนักงาน บริษัท เซ็นโทซ่า จำกัด จังหวัดขอนแก่น โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.35) เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ระดับจริยธรรมในการปฏิบัติงานของพนักงาน บริษัท เซ็นโทซ่า จำกัด จังหวัดขอนแก่น อยู่ในระดับมากที่สุด 2 ด้าน คือความซื่อสัตย์ สุจริต ( =4.59) และความโปร่งใส ( =4.53) อยู่ในระดับมาก 5 ด้าน คือ มีใจให้บริการ ( =4.49) ความรับผิดชอบ ( =4.29) ความเสียสละ ( =4.20) ความถูกต้อง ( =4.20) และทำงานอย่างสร้างสรรค์( =4.19)2) ระดับความผูกพัน ต่อองค์กรของพนักงาน บริษัท เซ็นโทซ่า จำกัด จังหวัดขอนแก่น โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =4.03) เมื่อาแนกเป็นรายด้าน พบว่า ระดับความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน บริษัท เซ็นโทซ่า จำกัด จังหวัด ขอนแก่น อยู่ในระดับมากทั้ง 3 ด้าน คือความพร้อมที่จะทุ่มเททำงานในนามขององค์กร ( =4.19) ความตั้งใจจะคงความเป็นสมาชิกขององค์กร ( =3.99) และความเชื่อมั่นในเป้าหมายและค่านิยมขององค์กร ( =3.90) และ 3) ผลวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างจริยธรรมในการปฏิบัติงานกับความผูกพันต่อองค์กร ของพนักงาน บริษัท เซ็นโทซ่า จำกัด จังหวัดขอนแก่น โดยมีค่าความสัมพันธ์อยู่ระหว่าง 0.440-0.692 อย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ แสดงให้เห็นว่า จริยธรรมในการปฏิบัติงาน กับความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน บริษัท เซ็นโทซ่า จำกัด จังหวัดขอนแก่น มีความสัมพันธ์ทางบวก ค่อนข้างสูง (rxy= 0.685) โดยคู่ที่มีความสัมพันธ์กันสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่จริยธรรมในการปฏิบัติงานด้าน ทำงานอย่างสร้างสรรค์กับความผูกพันต่อองค์กรด้านความพร้อมที่จะทุ่มเททำงานในนามขององค์กร มีความสัมพันธ์ทางบวกค่อนข้างสูง (rxy= 0.692) รองลงมา ได้แก่ จริยธรรมในการปฏิบัติงานด้านความ รับผิดชอบ กับความผูกพันต่อองค์กรด้านความพร้อมที่จะทุ่มเททำงานในนามขององค์กร มีความสัมพันธ์ ทางบวกค่อนข้างสูง (rxy= 0.645) และลำดับที่สาม ได้แก่ จริยธรรมในการปฏิบัติงานด้านความโปร่งใส กับ ความผูกพันต่อองค์กรด้านความพร้อมที่จะทุ่มเททำงานในนามขององค์กร มีความสัมพันธ์ทางบวกค่อนข้าง สูง (rxy= 0.639) และสำหรับคู่ที่มีความสัมพันธ์กันต่ำสุดสามอันดับแรก ได้แก่ จริยธรรมในการปฏิบัติงาน ด้านความเสียสละ กับความผูกพันต่อองค์กรด้านความตั้งใจจะคงความเป็นสมาชิกขององค์กร มีความสัมพันธ์ทางบวกปานกลาง (rxy= 0.440) รองลงมา ได้แก่ จริยธรรมในการปฏิบัติงานด้านความ ถูกต้องกับความผูกพันต่อองค์กรด้านความตั้งใจจะคงความเป็นสมาชิกขององค์กร มีความสัมพันธ์ทางบวก ปานกลาง (rxy= 0.473) และลำดับที่สาม ได้แก่ จริยธรรมในการปฏิบัติงาน ด้านความเสียสละกับความ ผูกพันต่อองค์กรด้านความเชื่อมั่นในเป้าหมายและค่านิยมขององค์กร มีความสัมพันธ์ทางบวกปานกลาง (rxy= 0.495)
References
กัลยกร คลังสมบัติ. (2551). จริยธรรมในการทำงานของพนักงานธนาคารออมสินภาค 8. วิทยานิพนธ์ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, สาขาการจัดการเชิงกลยุทธ์, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
คณพศ สิทธิเลิศ. (2548). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบด้านจริยธรรมในการทำงานกับ ประสิทธิภาพการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบล ในจังหวัดสมุทรปราการ. กรุงเทพฯ: ศูนย์ ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม.
ณัฏฐพร ยี่สุ่น. (2552). จริยธรรมในองค์กร ความพึงพอใจในการทำงาน และความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานบริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด. สารนิพนธ์ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการจัดการ, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ณัฏฐพันธ์ เขจรนันทน์. (2551). พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น.
บุญชม ศรีสะอาด. (2547). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย เล่ม 1 (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น. บุญธรรมกิจปรีดา บริสุทธิ์. (2549). เทคนิคการสร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูลสำหรับการวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ:จามจุรีโปรดักท์.
ภูมิธรรม ฤกษ์อินทรีย์. (2546). ภาพลักษณ์การให้บริการ และพฤติกรรมทางจริยธรรมในการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์. วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, สาขาการจัดการทั่วไป, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.
วิเชียร วิทยอุดม. (2551). พฤติกรรมองค์การ (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: ธนธัชการพิมพ์.
วิภาดา คุปตานนท์. (2551). การจัดการและพฤติกรรมองค์การ : เทคนิคการจัดการสมัยใหม่ (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรังสิต.
สำราญ บุญคำโชติ. (2549). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการครู ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามหาสารคาม เขต 1. วิทยานิพนธ์ ครุศา สตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
สุพัฒน์ ศรีสารคาม. (2554). วฒั นธรรมองค์กรในการปฏิบัติงานที่มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อ องค์กร ของบุคลากรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดมหาสารคาม. วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจ มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
สุภาพร พิศาลบุตร. (2549). จริยธรรมทางธุรกิจ. กรุงเทพฯ: วิรัตน์ เอ็ดดูเคชั่น.
Chen, G. et al. (2009) . The Motivating Potential of Teams: Test and Extension of Chen and Kanfer’s (2006) Cross-Level Model of Motivation in Teams. Organizational Behavior and Human Decision Processes. 110 (1), 45-55.
Yamane, T. ( 1973) . Statistics: an Introductory Analysis (3rd ed.). New York: Harper and Row.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2014 สุชัญญา โคกสีอำนวย
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ผู้เขียนบทความ และผู้นำส่งบทความ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องลิขสิทธิ์ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ สิทธิ์แห่งความเป็นเจ้าของบทความ สิทธิ์แห่งการได้มาซึ่งบทความ สิทธิ์ของการได้มาซึ่งข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในบทความ สิทธิ์ของการใช้เครื่องมือเพื่อการประมวลผล หรือสิทธิ์อื่นใดอันเกี่ยวข้องกับบทความ วารสาร “สยามวิชาการ” เป็นผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้นำบทความออกเผยแพร่โดยสุจริตเท่านั้น สิทธิ์ทั้งปวงอันเกี่ยวข้องกับบทความยังเป็นของเจ้าของสิทธิ์อยู่ สิทธิ์นั้นไม่ได้ถูกถ่ายโอนมาเป็นของวารสารฯ แต่อย่างใด
ข้อความที่ปรากฏอยู่ในบทความนั้น ถือเป็นทัศนะอิสระของผู้เขียน โดยผู้เขียนแต่ละท่านให้การรับรองว่าบทความของตนมิได้ละเมิดลิขสิทธิ์อันเป็นของผู้อื่น วารสารฯ และ ผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรองบทความ เป็นแต่เพียงผู้ให้ความเห็นเรื่องคุณภาพของเนื้อหา และความเหมาะสมของรูปแบบการนำเสนอเท่านั้น วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม และ ผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรองบทความ ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อข้อความใดๆ อันเกิดจากทัศนะ และสิทธิ์ในการตีพิมพ์และเผยแพร่ของผู้เขียน