การพัฒนาตลาดท่องเที่ยวเกษตรอินทรีย์เชิงรุก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเกษตรจังหวัดนครปฐม
คำสำคัญ:
การตลาดท่องเที่ยวเกษตรเชิงรุก, ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร, ตลาดท่องเที่ยวเกษตรอินทรีย์บทคัดย่อ
การท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้รับความนิยมมากขึ้น ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะการจัดการเกษตรอินทรีย์ตามแนวสมาร์ทฟาร์มมิ่ง ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตร จังหวัดนครปฐม ที่มีจุดเด่นด้านการทำเกษตรอินทรีย์และสามารถจัดการเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยมีศักยภาพที่จะพัฒนาตลาดท่องเที่ยวในพื้นที่ การวิจัยนี้มีวัตถุเพื่อการพัฒนาตลาดท่องเที่ยวเกษตรอินทรีย์เชิงรุกในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตร จังหวัดนครปฐม โดยมีวิธีการศึกษาเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การสำรวจ นักท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 400 คน และประเมิน สำรวจความพึงพอใจนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยววิสาหกิจชุมชนเกษตร นครปฐม จำนวน 78 คน ใช้สถิติวิจัยคือ ความถี่ (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (mean) และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) สัมภาษณ์ผู้นำและสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรจังหวัดนครปฐม จำนวน 7 คน และ ผู้นำชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรต้นเพื่อสัมภาษณ์ ผู้นำกลุ่ม ในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลระดับชาติแหลมสัก จังหวัดกระบี่ จำนวน 1 คน
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนต้องการพัฒนาตลาดเชิงรุกสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวในรูปแบบทัวร์ 2 วัน 1 คืน และนักท่องเที่ยวทั่วไป และกลุ่มเที่ยวชมเพื่อเรียนรู้งาน สามารถดำเนินการได้ในการจัดโปรแกรมทัวร์ โดยฟรีอาหารและกิจกรรม การจัดชมงานครึ่งวัน และสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ควรทำการส่งเสริมการตลาดด้านที่พัก ปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาตลาดท่องเที่ยวตามปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดทั้ง 7 ด้าน มีระดับความคิดเห็นในระดับมากทุกรายการ โดยให้ความสำคัญมากที่สุดคือ ด้านผลิตภัณฑ์และบริการโดยเฉพาะกิจกรรมชมสวนเกษตรอัจฉริยะในพื้นที่ และผลิตภัณฑ์เกษตรเพิ่มมูลค่าได้แก่ ว่านพระอาทิตย์ เป็นจุดดึงดูดที่สร้างความแตกต่างจากแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอื่น การประเมินความพึงพอใจนักท่องเที่ยว พบว่า ทุกรายการมีความพึงพอใจมากที่สุดโดยพอใจมากที่สุด คือ พึงพอใจด้านนวัตกรรมการใช้เทคโนโลยีเกษตร การศึกษาชุมชนท่องเที่ยวต้นแบบ พบว่า เกิดจากการบูรณาการในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้รับประโยชน์ร่วมกันในการเป็นพลังขับเคลื่อน อาศัยความร่วมมือชุมชนภายในและการเชื่อมโยงองค์กรภายนอกในหลากหลายมิติ โดยต้องทำให้เกิดรายได้จริงแก่ชุมชน และการแบ่งปันสู่ชุมชนอย่างแท้จริง
References
กรมส่งเสริมการเกษตร. (2563). กรมส่งเสริมการเกษตรชูงานท่องเที่ยววิถีเกษตรสนองนโยบายรัฐสร้างงานสร้างรายได้ให้เกษตรกร. สืบค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2563 จาก https://www.ryt9.com/s/prg/3072171
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2562). สถิตินักท่องเที่ยวภายในประเทศ Q1-Q4 ปี 2562 (ภาคกลาง). สืบค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2563 จาก https://www.mots.go.th/News-link.php?nid=13036
ชัยสิทธิ์ ดำรงวงศ์เจริญ. (2550).การจัดการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชิงอนุรักษ์โดยการมีส่วนร่วม ของชุมชน กรณีศึกษาภูผายนต์อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร. วิทยานิพนธ์ศิลปะศาสตร์ มหาบัณฑิต สาขาวิชาวัฒนธรรมศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ทักษิณ รักจริง และคณะ. (2564). โมเดลการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธปีที่ 6 ฉบับที่ 5(พฤษภาคม2564), หน้า 408-424.
ธนมนต์ ธนรัตนพิมลกุล. (2562). การพัฒนาชุมชนเกษตรจังหวัดเชียงใหม่สู่การท่องเที่ยวระดับอาเซียน. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์, มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
นภดล แสงแข และคณะ. (2563). รูปแบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรจังหวัดจันทบุรี. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ปีที่ 9 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2563 หน้า 122-136.
นุชนารถ ไชยโรจน์ . 2541. การจัดการท่องเที่ยวแนวใหม่. จุลสารการท่องเที่ยว 17(2): 12-18
พัชรินทร์ ธรรมสาร และคณะ. (2562). รูปแบบการพัฒนาการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของจังหวัดอุบลราชธานี. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร ปีที่ 7 ฉบับที่ 5 (กันยายน-ตุลาคม 2562) หน้า 1391-1406.
มณีรัตน์ ธีรพันธุ์เสถียร. (2562). ศักยภาพของชุมชนในการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตร : กรณีศึกษาวิสาหกิจชุมชนเกษตรเพื่อสุขภาพบ้านปัถวี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.
ยุทธศักดิ์ สุภสร. (2561). ผู้ว่าการ ททท. ใส่เกียร์ขับเคลื่อน Local Economy. สืบค้นเมื่อ 10 ตุลาคม 2563 จาก http://www.nakhonpathom.go.th/news_develop_plan
รัฐนันท์ พงศ์วิริทธิ์ธร. (2558). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อความยั่งยืน : โครงการหลวงปางดะ. วารสารเทคโนโลยีสุรนารี, 9(1), 19-35.
ละเอียด ศิลาน้อย และสุภาวดี สุทธิรักษ์. (2558). ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวในการเดินทางท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร : กรณีศึกษาสวนสละอาทิตย์ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารการบริการและการท่องเที่ยวไทย, 10(2), 47-59 47-59.
ศิรินันทน์ พงษ์นิรันดร และคณะ. (2559). แนวทางในการพัฒนาศักยภาพการจัดการท่องเที่ยว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ มข. 9(1) (มกราคม-มิถุนายน), 234-259.
สำนักงานจังหวัดนครปฐม. (2563). ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (Gross Provincial Product: GPP) แผนพัฒนาจังหวัดนครปฐม 4 ปี (พ.ศ. 2561-2564). สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2563 จาก http://www.nakhonpathom.go.th/news_develop_plan
สำนักงานกลางทะเบียนราษฎร์. (2562). ประชากรกรุงเทพมหานครและปริมณฑล, สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2563 จาก http://203.114.121.13:8085/ebook/index.jsp?booktype=2
อนัญญา ปาอนันต์. ( 2560). การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จังหวัดระยอง. ศิลปศาสตรมหาบัณพิต สาขาการจัดการการท่องเที่ยว. คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต.
อภิรมย์ พรหมจรรยา, คมสันต์ รัชตพันธ์, และประภัสรา กิจไพบูลย์ทวี. (2546). การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตร กรณีศึกษาชุมชนเกาะมะพร้าว จังหวัดภูเก็ต
Carlson, Jamie. & Rosenberger, Philip J. (2016). A hierarchical model of perceived value of group-oriented travel experiences to major events and its influences of satisfaction and future group-travel intentions, Journal of Travel & Tourism Marketing, 33(9), 1251-1267.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 มหาวิทยาลัยสยาม

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ผู้เขียนบทความ และผู้นำส่งบทความ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องลิขสิทธิ์ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ สิทธิ์แห่งความเป็นเจ้าของบทความ สิทธิ์แห่งการได้มาซึ่งบทความ สิทธิ์ของการได้มาซึ่งข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในบทความ สิทธิ์ของการใช้เครื่องมือเพื่อการประมวลผล หรือสิทธิ์อื่นใดอันเกี่ยวข้องกับบทความ วารสาร “วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม เป็นผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้นำบทความออกเผยแพร่โดยสุจริตเท่านั้น สิทธิ์ทั้งปวงอันเกี่ยวข้องกับบทความยังเป็นของเจ้าของสิทธิ์อยู่ สิทธิ์นั้นไม่ได้ถูกถ่ายโอนมาเป็นของวารสารฯ แต่อย่างใด
ข้อความที่ปรากฏอยู่ในบทความนั้น ถือเป็นทัศนะอิสระของผู้เขียน โดยผู้เขียนแต่ละท่านให้การรับรองว่าบทความของตนมิได้ละเมิดลิขสิทธิ์อันเป็นของผู้อื่น วารสารฯ และ ผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรองบทความ เป็นแต่เพียงผู้ให้ความเห็นเรื่องคุณภาพของเนื้อหา และความเหมาะสมของรูปแบบการนำเสนอเท่านั้น วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสยาม และ ผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรองบทความ ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อข้อความใดๆ อันเกิดจากทัศนะ และสิทธิ์ในการตีพิมพ์และเผยแพร่ของผู้เขียน